สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเทรดเดอร์ว่า ทางการจีนกำลังดำเนินการปราบปรามธนาคารและโบรกเกอร์ ซึ่งเชื่อว่า ได้ปั่นการซื้อขายตราสารหนี้ให้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมาก เพื่อพยายามที่จะดึงดูดการทำธุรกิจมากขึ้น
เทรดเดอร์สองรายเปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนกำลังจับตาการทำธุรกรรมขนาดใหญ่ในระบบ X-Bond เพื่อหาสัญญาณการซื้อขายที่ผิดปกติ
การตรวจสอบดังกล่าวได้เริ่มขึ้นหลังจากปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ของธนาคารไชน่า ดีเวล็อปเมนต์ แบงก์ ได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 16 ก.ค. และหนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี่รายงานว่า ปริมาณการซื้อขายตราสารดังกล่าวได้ร่วงลง 1 ใน 3 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ดี ระบบซื้อขายเงินตราต่างประเทศของจีน (China Foreign Exchange Trading System -CFETS) ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มการซื้อขายระหว่างธนาคารและหน่วยงานในเครือของธนาคารกลางจีน ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
เทรดเดอร์กล่าวว่า ฝ่ายต่างๆในตลาดตีความกิจกรรมดังกล่าวของธนาคารขนาดเล็กและบริษัทหลักทรัพย์ของจีนที่เกิดขึ้นว่า มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มปริมาณการซื้อขาย มากกว่าเป็นการให้บริการกับลูกค้า
ทั้งนี้ การแสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องปริมาณมากดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารและบริษัทเหล่านั้นถูกจัดอันดับเป็นผู้ให้บริการในตลาดที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในบัญชีรายชื่อที่รวบรวมโดยรัฐบาล ซึ่งก็จะทำให้ธนาคารและบริษัทเหล่านั้นสามารถดึงดูดการทำธุรกิจได้มากขึ้น
ทางด้านตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้เพิ่มการปราบปรามการละเมิดกฎเกณฑ์ด้านการเปิดเผยข้อมูล และการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน เพื่อปรับปรุงด้านธรรมาภิบาล โดยตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นได้กำหนดบทลงโทษ 62 กรณีแล้วสำหรับการละเมิดกฎดังกล่าวนับตั้งแต่ต้นปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 37 กรณี
การละเมิดกฎเกณฑ์ดังกล่าวรวมถึงผู้รับประกันที่ผิดกฎหมาย, การฉ้อโกงทางการเงิน และความล้มเหลวในการตรวจสอบทรัพย์สิน (due diligence) โดยสำนักงานที่ทำหน้าที่ตัวกลาง