ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ว่า กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME) ของจีนมีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นในเดือนส.ค. เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มมีเสถียรภาพ หลังจากที่รัฐบาลใช้นโยบายสนับสนุน
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่ม SME จีนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.5 ในเดือนส.ค. จากระดับ 53.8 ในเดือนก.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่ม SME ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลงติดต่อกันในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้
ส่วนดัชนีย่อยที่บ่งชี้ถึงการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในเดือนส.ค.นั้น ขยับขึ้นจากระดับของเดือนก.ค. ขณะที่ยอดส่งซื้อภายในประเทศปรับตัวขึ้น และการผลิตดีดตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดว่า มาตรการป้องกันปัจจัยผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ" (counter-cyclical factor" ซึ่งรัฐบาลได้นำมาใช้เมื่อช่วงต้นปีนี้ ได้เริ่มส่งผลด้านบวกต่อเศรษฐกิจที่แท้จริงแล้วในขณะนี้ ขณะเดียวกันคาดว่า กิจกรรมทางธุรกิจที่แท้จริงของกลุ่ม SME จะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การดำเนินธุรกิจในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ จะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของจีน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนมิ.ย.ที่พุ่งขึ้น 3.1%