เจ้าหน้าที่และนักวิชาการของฟิลิปปินส์กล่าวว่า พวกเขาหวังที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และความร่วมมือที่สำคัญมากขึ้นกับจีน หลังจากที่ประธานาธิบีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ เดินทางเยือนจีนเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งประสบความสำเร็จและมีประสิทธิผลสูง
ปธน.ดูเตอร์เตได้เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนประเทศจีนเป็นเวลา 5 วันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนจีนเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในเดือนมิ.ย. 2559
ระหว่างการประชุมทวิภาคีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวกับปธน.ดูเตอร์เต ว่า เขายินดีที่จะร่วมงานกับปธน.ดูเตอร์เต เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับมุมมองในเชิงกลยุทธ์และในระยะยาว ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่แข็งแกร่ง "สิ่งนี้จะไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและประชาชนของพวกเขา แต่ยังจะเพิ่มพลังในเชิงบวกต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค"
นายซัลวาดอร์ พาเนโล โฆษกของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้ระบุถึงการเดินทางเยือนจีนของปธน.ดูเตอร์เตว่า "ประสบความสำเร็จและมีประสิทธิผลสูง" โดยกล่าวว่า การเยือนครั้งนี้เป็น "ภาพสะท้อนของความเชื่อมั่นที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมิตรภาพที่อบอุ่นระหว่างประธานาธิบดีทั้งสอง และเป็นข้อพิสูจน์อย่างไม่ต้องสงสัยถึงความผูกพันที่เพิ่มขึ้นและยั่งยืนระหว่างฟิลิปปินส์และจีน"
นายพาเนโลกล่าวว่า ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศยอมรับว่า ฟิลิปปินส์และจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่ซึ่งพวกเขาสามารถร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน อาทิเช่น ในด้านการศึกษา, สุขภาพ, การเกษตร, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ความปลอดภัย, การค้า การลงทุน, พลังงาน รวมถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคล และวัฒนธรรม
ปธน.สีกล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องส่งเสริมความร่วมมือระหว่างโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน กับโครงการ "Build, Build, Build" ของฟิลิปปินส์ และดำเนินโครงการความร่วมมือที่สำคัญในด้านต่างๆ เช่น การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน, สวนอุตสาหกรรม, การสื่อสารโทรคมนาคม และพลังงาน
"จีนยินดีที่จะนำเข้าผลไม้และผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพสูงมากขึ้นจากฟิลิปปินส์ และจะส่งผู้เชี่ยวชาญไปยังฟิลิปปินส์เพื่อสอนด้านเทคโนโลยีการเกษตรและการประมง" ปธน.สีกล่าว
นายรามอน โลเปซ รมว.กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ กล่าวถึงคำมั่นสัญญาของจีนว่าเป็น "คำพูดที่ให้กำลังใจ" โดยกล่าวว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีทางธุรกิจและเศรษฐกิจมีการขยายตัวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
นายโลเปซกล่าวว่า การส่งออกของฟิลิปปินส์ไปยังจีนขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
เขาระบุเสริมว่า บริษัทของจีนยังได้รับการสนับสนุนให้ลงทุนในฟิลิปปินส์เพื่อช่วยเพิ่มตำแหน่งงาน และขีดความสามารถในการผลิตที่จะทำให้ฟิลิปปินส์สามารถส่งเสริมขีดความสามารถในการส่งออกได้
"แนวโน้มของการลงทุนของจีนเป็นไปในเชิงบวกอย่างมาก เนื่องจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จากจีนเพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา" นายโลเปซกล่าว
ปธน.สีกล่าวกับปธน.ดูเตอร์เตว่า ทั้งสองฝ่ายควรสกัดกั้นความขัดแย้ง ขจัดการแทรกแซงจากภายนอก และมีความมุ่งมั่นในการดำเนินความร่วมมือ ทำให้เกิดความพยายามในเชิงปฏิบัติ และแสวงหาการพัฒนา
ปธน.สีกล่าวว่า "ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายจัดการกับปัญหาทะเลจีนใต้อย่างเหมาะสม บรรยากาศของความสัมพันธ์ทวิภาคีจะแข็งแกร่ง รากฐานของความสัมพันธ์จะมั่นคง รวมถึงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคจะมีหลักประกันที่สำคัญ"
นายเดลฟิน โลเรนซานา รมว.กลาโหมของฟิลิปปินส์กล่าวว่า ขณะนี้ฟิลิปปินส์และจีนได้ตกลงกันที่จะเห็นต่างกันในประเด็นเรื่องทะเลจีนใต้ และทั้งสองประเทศจะสามารถจัดการความแตกต่างดังกล่าว
นอกจากนี้ นายโลเรนซานายังกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนนั้นไม่ได้จำกัดเฉพาะปัญหาทะเลจีนใต้แต่เพียงอย่างเดียว"
"มีประเด็นที่ใหญ่กว่าที่เราเห็นพ้องกันว่า จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของเรา เช่น การค้า, การท่องเที่ยว, การแลกเปลี่ยนผู้คน และอื่นๆ" เขากล่าวเสริม
ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ประกาศจัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาล และคณะทำงานระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือด้านน้ำมันและก๊าซ เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าที่สำคัญในการสำรวจน้ำมันและก๊าซร่วมกัน
นายเฮนรี ชาน นักวิจัยของสถาบันการศึกษาการพัฒนาแบบบูรณาการในกรุงมะนิลากล่าวว่าการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลกับคณะทำงานระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือด้านน้ำมันและก๊าซ ถือเป็นก้าวสำคัญของจีนและฟิลิปปินส์
ส่วนสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ยังคงสงบสุขและมีเสถียรภาพในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีความสมเหตุสมผลและเป็นไปได้ที่ทั้งสองประเทศจะสามารถระงับข้อพิพาทและมุ่งความสนใจไปที่การร่วมมือกัน ซึ่งจะช่วยทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคนี้มีเสถียรภาพมากขึ้น" นายชานกล่าว
นายลูซิโอ บลันโก พิตโล อาจารย์ด้านโครงการศึกษาจีนของมหาวิทยาลัย Ateneo de Manila กล่าวว่า การที่ปธน.ดูเตอร์เตเดินทางเยือนจีนในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นการยืนยันถึงการที่เขาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับจีน
"ปธน.ดูเตอร์เตมองว่าจีนเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญสำหรับฟิลิปปินส์" เขากล่าว
นายลูซิโอกล่าวว่า จะมีแนวโน้มมากขึ้นสำหรับความร่วมมือทวิภาคีระหว่างสองประเทศ
เขากล่าวเสริมว่า "เงินทุน, ความรู้ และความร่วมมือของจีนกำลังสร้างความก้าวหน้าในด้านการเกษตร, การผลิต, การท่องเที่ยว, พลังงานทดแทน, พลังงาน, การสื่อสารโทรคมนาคม, การขนส่ง, อี-คอมเมิร์ซและเทคโนโลยีด้านการเงิน, การพัฒนาทักษะ และการถ่ายโอนเทคโนโลยี และอาจจะมีผลกระทบที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับฟิลิปปินส์"