สมาคมผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ของเกาหลีใต้ (KAIDA) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายรถยนต์ของญี่ปุ่นในตลาดเกาหลีใต้ร่วงลงอย่างหนักในเดือนส.ค. ขณะที่ชาวเกาหลีใต้ยังคงเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น โดยมีสาเหตุมาจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศ
รายงานของ KAIDA ระบุว่า ยอดจดทะเบียนรถญี่ปุ่นในเกาหลีใต้ อยู่ที่ระดับ 1,398 คัน ร่วงลง 56.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 3,247 คัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดขายรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อชาวเกาหลีใต้เปิดตัวแคมเปญไม่ซื้อสินค้าญี่ปุ่น โดยในเดือนก.ค. ยอดขายรถยนต์ญี่ปุ่นร่วงลง 17.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 2,674 คัน
ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นลดลง 0.7% แตะระดับ 27,554 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
การรณรงค์ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่นได้เริ่มขึ้นในเดือนก.ค. เมื่อญี่ปุ่นได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกวัสดุ 3 ชนิดที่ใช้ในการผลิตชิพหน่วยความจำและจอแสดงผลไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งสินค้าเหล่านี้ถือเป็นสินค้าส่งออกหลักของเกาหลีใต้
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นประกาศถอดถอนชื่อเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษด้านการส่งออกสินค้าทางเทคโนโลยีและทางทหาร หรือ "whitelist" เมื่อเดือนที่แล้ว โดยญี่ปุ่นได้อ้างเหตุด้านความมั่นคงของชาติที่ว่า หากไม่ควบคุมการส่งออกให้เข้มงวดมากขึ้น วัตถุดิบเหล่านี้ก็อาจถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารได้
ทางด้านเกาหลีใต้เชื่อว่า ญี่ปุ่นออกมาตรการดังกล่าวเพื่อตอบโต้กรณีที่ศาลเกาหลีใต้ได้สั่งให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยแก่คนงานเกาหลีใต้ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งญี่ปุ่นได้ยึดคาบสมุทรเกาหลีเป็นอาณานิคมในปี 2453-2488