สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทะยานขึ้นกว่า 11% ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วงเช้านี้ หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสองแห่งในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ณ เวลา 06.21 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 6.12 ดอลลาร์ หรือ 11.16% แตะที่ระดับ 60.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงมหาดไทยของซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสองแห่งในเขต Abqaiq และ Khurais ด้วยโดรน จนเป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้ โดยโรงกลั่นทั้งสองแห่งเป็นของบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย
-- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 170 จุดในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการโจมตีท่อส่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย
ณ เวลา 07.27 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 171 จุด หรือ 0.63% แตะที่ระดับ 27,043 จุด
เจ้าชายอับดุลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า เหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสองแห่งของซาอุดีอาระเบียส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซ 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ตัวเลขล่าสุดที่โอเปกเปิดเผยเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ผลผลิตทั้งหมดของซาอุฯ อยู่ที่ 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน เท่ากับว่าผลผลิตจะหายไปถึงราวครึ่งหนึ่ง หรือคิดเป็น 5% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ มีคำสั่งให้ปล่อยน้ำมันจากสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
"เมื่อพิจารณาถึงเหตุการณ์โจมตีโรกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ผมจึงได้สั่งการให้ปล่อยน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น โดยให้ปล่อยในปริมาณที่มีการกำหนด และพอเพียงต่อการรักษาอุปทานน้ำมันในตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม" ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความในวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ
-- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า คณะกรรมการเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบที่แล้วในวันที่ 30-31 ก.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2551
การประชุมในเดือนก.ย.เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เฟดยังคงถูกกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า เฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0% หรือสู่ระดับติดลบ เพื่อให้ชาวสหรัฐสามารถรีไฟแนนซ์หนี้
-- การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงกลับมาเดือดอีกครั้ง เมื่อเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวานนี้ โดยผู้ประท้วงได้จุดไฟ รวมถึงขว้างปาก้อนหินและระเบิดเข้าใส่ตำรวจ ทั้งยังบุกทำลายสถานีรถไฟฟ้า (MTR) หลายแห่ง ขณะที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วง
รายงานข่าวระบุว่า สถานการณ์ในฮ่องกงกลับมาวุ่นวายและรุนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อผู้ประท้วงเริ่มฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของทางการด้วยการเคลื่อนขบวนผ่านถนนสายต่างๆ ที่ทางการได้ห้ามไว้ และผู้ประท้วงฮาร์ดคอร์กลุ่มหนึ่งยังได้พยายามบุกเข้าสถานที่ทำการหลักของรัฐบาล รวมถึงอาคารรัฐสภา (LegCo Complex) ส่งผลให้สำนักงานเลขาธิการ LegCo ได้ออกคำเตือนสูงสุดในช่วงบ่ายวานนี้ และขอให้ทุกคนออกจากอาคารในทันที
-- ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 7.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.9%
ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 4.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 5.2% ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.ปรับตัวขึ้น 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 5.7%
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ อินโดนีเซียเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนส.ค. ขณะที่สหรัฐเปิดเผย ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ย. จากเฟดนิวยอร์ก
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม สถาบัน ZEW เปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนก.ย.ของอียูและเยอรมนี ขณะที่สหรัฐเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)