เว็บไซต์ของรัฐบาลจีนเผยแพร่ถ้อยแถลงของนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อรัสเซียว่า เป็นเรื่องยากที่จีนจะรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ระดับ 6% หรือมากกว่านั้น เนื่องจากต้องเผชิญความยากลำบากจากความซับซ้อนของสถานการณ์ในต่างประเทศ
นายหลี่กล่าวว่า "สำหรับจีน การจะรักษาระดับการเติบโตไว้ที่ 6% หรือมากกว่านั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันจากสถานการณ์ที่ซับซ้อนในต่างประเทศ รวมถึงฐานการเติบโตที่ยังคงอยู่ในระดับสูง"
นายหลี่ยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจจีนต้องเผชิญกับแรงกดดันของการเข้าสู่ช่วงขาลง อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับนโยบายกีดกันการค้าที่กำลังขยายตัวออกไปมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายหลี่ยังคงยืนยันว่าเศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพในช่วง 8 เดือนแรกปีนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางการจีนได้ออกมาเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2562 ขยายตัวที่ระดับ 6.2% เทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 27 ปี และชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 6.4% อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามระหว่างจีนและสหรัฐ
ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับผลกระทบดังกล่าวและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงมาแล้วถึง 3 ครั้งในปีนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางก็ได้ประกาศปรับลด RRR ลง 0.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.เป็นต้นไป ซึ่งส่งผลให้มีสภาพคล่องไหลเข้าสู่ตลาดถึง 9 แสนล้านหยวน