รายงานฉบับหนึ่งจากสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเคลื่อนเข้าสู่ระยะ "น้ำเชี่ยว" โดยภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2563 นั้นส่งสัญญาณ "อันตรายชัดเจน"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานว่าด้วยการค้าและการพัฒนา จากที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ประจำปี 2562 ระบุว่า แม้ไม่การคำนวณรวมปัจจัยขาลงที่ย่ำแย่ที่สุด เศรษฐกิจโลกก็น่าจะยังชะลอตัวลงจนขยายตัวเพียง 2.3% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับ 3% เมื่อปี 2561
รายงานดังกล่าวระบุว่า "สิ่งที่ส่งสัญญาณน่าเป็นห่วงได้แก่ความตึงเครียดทางการค้า ความเคลื่อนไหวของค่าเงิน หนี้สินภาคธุรกิจ รวมถึงการทำ Brexit แบบไม่มีข้อตกลง และภาวะ inverted yield curve ทว่าแทบจะยังไม่พบว่าเหล่าผู้กำหนดนโยบายได้เตรียมรับมือพายุเหล่านี้แล้ว"
รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้มีการกระตุ้นการจ้างงาน เพิ่มค่าจ้าง และการลงทุนสาธารณะ เพื่อชดเชยการที่เหล่าผู้กำหนดนโยบายให้ความสำคัญกับราคาหุ้น ผลประกอบการรายไตรมาส และความเชื่อมั่นของนักลงทุน
รายงานระบุว่า "การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจพัฒนาแล้วรายใหญ่ๆทั้งหมด รวมถึงสหรัฐ ยืนยันว่าการพึ่งพานโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและการปรับตัวขึ้นของราคาสินทรัพย์เพื่อกระตุ้นอุปสงค์นั้น ก่อให้เกิดการเติบโตเพียงระยะเวลาหนึ่งแม้ในกรณีที่ดีที่สุด ขณะที่การปรับลดภาษีสำหรับองค์กรและบุคคลกลุ่มร่ำรวยนั้นไม่ค่อยก่อให้เกิดการลงทุนที่มีประโยชน์"
นอกจากนี้ การค้าน่าจะชะลอตัวลงอย่างหนักในปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ซบเซาลงทั่วโลก ประกอบกับนโยบายเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐ
รายงานระบุว่า การค้าได้ชะลอตัวลงจนขยายตัวเพียง 2.8% เมื่อปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะโตเพียงประมาณ 2% ในปีนี้