ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 494.42 จุด หรือ 1.86% เมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและยุโรป นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐ หลังจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง และภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง
-- องค์การการค้าโลก (WTO) ลงมติเห็นชอบต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปวงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากรัฐบาลในประเทศยุโรปให้การอุดหนุนบริษัทแอร์บัสอย่างผิดกฎหมาย พร้อมระบุว่า สหภาพยุโรป (EU) ได้ปฏิเสธที่จะดำเนินการเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการให้การอุดหนุนแอร์บัส หรือยกเลิกมาตรการดังกล่าว ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผลประโยชน์ของสหรัฐ โดยทำให้ยอดขายของเครื่องบินขนาดใหญ่ของสหรัฐทรุดตัวลงอย่างมาก
-- -สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ออกแถลงการณ์ในวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า รัฐบาลสหรัฐวางแผนที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) หลายรายการ หลังจากองค์การการค้าโลก (WTO) ลงมติเห็นชอบต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรป วงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์
นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์ว่า "สหรัฐจะเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจาก EU ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ หลังจาก WTO ได้ลงมติเห็นชอบให้ดำเนินการดังกล่าว อย่างไรก็ดี เราคาดหวังที่จะเจรจากับ EU เพื่อคลี่คลายประเด็นนี้"
USTR ได้เปิดเผยรายการสินค้าที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจาก EU ซึ่งได้แก่ เครื่องบินพาณิชย์ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 10% และจะเรียกเก็บภาษีสินค้าเกษตรและสินค้าประเภทอื่นๆในอัตรา 25% ซึ่งได้แก่ วิสกี้, เสื้อผ้าชนิดต่างๆและผ้าห่ม, ข้าวมอลต์, กาแฟ, เครื่องจักร, ชีส, น้ำมันมะกอก, เนื้อแช่แข็ง, ผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมู, เนย และโยเกิร์ต
-- นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะเสนอแผนการใหม่สำหรับการถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในรัฐสภาอังกฤษในวันนี้ โดยมีความเชื่อมั่นว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนเพียงพอจากกลุ่มผู้สนับสนุนสหภาพยุโรป (EU) ในการบรรลุข้อตกลงในที่สุด
ขณะที่เหลือเพียง 29 วันก่อนจะถึงกำหนดวัน Brexit ในวันที่ 31 ต.ค.นี้นั้น นายจอห์นสันได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนเมื่อวานนี้ว่า เขาพร้อมที่จะทำข้อตกลง โดยแสดงถึงการประนีประนอมและความยินยอมเพื่อให้ EU ยอมเจรจาทำข้อตกลง
นายไมเคิล โกฟ ผู้ช่วยของนายจอห์นสัน แสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐสภาอังกฤษจะให้การสนับสนุนค่อนข้างแข็งแกร่งกับข้อเสนอของนายจอห์นสัน โดยเขากล่าวกับรายงานโรเบิร์ต เพสตัน โชว์ของไอทีวีว่า มีโอกาสสูงมากที่ข้อเสนอของนายจอห์นสันจะได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาอังกฤษ
-- นักลงทุนต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัว 157,000 ตำแหน่ง รวมถึงดัชนีภาคการผลิตดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี และยอดขายรถยนต์ที่ร่วงลง
-- ความตึงเครียดของสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากแนวร่วมสิทธิมนุษยชนประชาสังคม (Civil Human Rights Front) ซึ่งเป็นผู้จัดการชุมนุม เตรียมที่จะจัดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เพื่อเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้กระสุนจริงยิงเข้าสู่ผู้ชุมนุมหนึ่งรายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกเดินขบวนประท้วงล่าสุดเมื่อวานนี้ ซึ่งมีภาพของผู้ประท้วงบางรายที่ใช้แท่งเหล็กตีเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นการต่อสู้อีกด้วย
-- แม้หัวหอมอาจจะไม่ใช่พืชพันธุ์ทางการเกษตรที่มีการพูดถึงบ่อยนักในตลาดการลงทุน แต่สำหรับในอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการบริโภคหัวหอมเป็นจำนวนมากนั้น ราคาของหัวหอมพุ่งขึ้นกว่า 200% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพายุมรสุมได้ทำลายผลผลิตและทำให้สต็อกของหัวหอมลดลงอย่างหนัก
ทั้งนี้ รัฐบาลได้สั่งห้ามไม่ให้มีการส่งออกหัวหอม และลงโทษผู้ที่กักตุนหัวหอมเพื่อลดราคา ส่งผลให้เกษตรกรออกมาเดินขบวนประท้วงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจผ่านข้อความบนทวิตเตอร์และในงานแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีฟินแลนด์ เพื่อปกป้องตนเองจากการที่พรรคเดโมแครตผลักดันให้มีการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง
"นี่เป็นเรื่องหลอกลวง" ปธน.ทรัมป์ กล่าวขณะแถลงต่อสื่อมวลชนร่วมกับนายเซาลี นีนิสเตอ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ ที่ทำเนียบขาว และกล่าวเพิ่มเติมว่า "นี่เป็นเรื่องที่หลอกลวงที่สุด"
-- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ มาร์กิตเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.ย.ของฝรั่งเศส เยอรมนี อียู และอังกฤษ ขณะที่สหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค.
ส่วนในวนพรุ่งนี้ ออสเตรเลียเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค. และสหรัฐเปิดเผยดุลการค้าเดือนส.ค.