ข้อมูลจากศุลกากรเกาหลีใต้และองค์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นชี้ให้เห็นว่า จำนวนชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นลดลงในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดการใช้จ่ายในญี่ปุ่นก็ปรับตัวลดลงอย่างหนักเช่นกัน โดยได้รับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น จนก่อให้เกิดกระแสต่อต้านญี่ปุ่นในหมู่ชาวเกาหลี
ข้อมูลระบุว่า ชาวเกาหลีใต้รูดบัตรเครดิตในญี่ปุ่นเป็นจำนวนรวมกัน 11,249 ครั้งในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งลดลงถึง 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 28,168 ครั้ง
เมื่อคำนวณตามมูลค่ารวมแล้ว ยอดรูดบัตรอยู่ที่ 12 ล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. ลดลง 57% จากปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวคำนวณตามยอดธุรกรรมที่มีมูลค่าเกิน 600 ดอลลาร์เท่านั้น
ส่วนจำนวนชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 308,700 ราย ลดลง 48% จากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ มาตรการของญี่ปุ่นในการถอดถอนชื่อเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษด้านการส่งออกสินค้าทางเทคโนโลยีและทางทหาร หรือ "whitelist" นั้น เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เกาหลีใต้ได้ตอบโต้ด้วยการเพิกถอนสถานะคู่ค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษของญี่ปุ่น ซึ่งได้เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา
ญี่ปุ่นได้อ้างเรื่องความมั่นคงของประเทศ โดยระบุว่า หากไม่ควบคุมการส่งออกให้เข้มงวดมากขึ้น วัตถุดิบเหล่านี้ก็อาจถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารได้ ขณะที่เกาหลีใต้เชื่อว่า ญี่ปุ่นออกมาตรการดังกล่าวเพื่อตอบโต้กรณีที่ศาลเกาหลีใต้ได้สั่งให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยแก่แรงงานเกาหลีใต้ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งญี่ปุ่นได้ยึดคาบสมุทรเกาหลีเป็นอาณานิคมในปี 2453-2488