เกมการรอคอยได้เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ส่งจดหมายถึงสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งชี้แจงถึงข้อตกลงสุดท้ายของเขาที่จะกำจัดอุปสรรคเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU หรือ Brexit ที่ดำเนินมา 3 ปีแล้ว
- ข้อเสนอของนายจอห์นสัน
นายจอห์นสันได้เสนอว่า ควรให้ไอร์แลนด์เหนือของอังกฤษ และไอร์แลนด์ซึ่งเป็นสมาชิกของ EU ยังคงอยู่ในเขตการค้าภายใต้กฎระเบียบทั้งหมดของไอร์แลนด์ เพื่อหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการตรวจสอบด้านศุลกากร
นายจอห์นสันได้กล่าวกับบรรดาผู้แทนในวันสุดท้ายของการประชุมพรรคอนุรักษ์นิยมในรัฐสภาว่า ข้อเสนอที่ส่งให้กับ EU เป็นการประนีประนอมของอังกฤษ "ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า EU เพื่อนของเราจะเข้าใจข้อเสนอ และยอมที่จะประนีประนอมด้วย"
"หากเราไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพราะจำเป็นต้องหารือทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับลักษณะที่แน่นอนของการตรวจสอบด้านศุลกากรในอนาคตขณะที่มีการปรับปรุงด้านเทคโนโลยีตลอดเวลานั้น ทำให้เราเหลือทางเลือกซึ่งก็คือ การไม่มีข้อตกลง" นายจอห์นสันกล่าว
นายจอห์นสันกล่าวเสริมว่า "Brexit แบบไม่มีข้อตกลงไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เราต้องการ แต่เป็นผลลัพธ์ที่เราพร้อมจะรับมือ"
- ปฏิกิริยาต่อข้อเสนอของจอห์นสัน
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ระบุในแถลงการณ์ว่า คณะเจรจาจาก EU และอังกฤษจะประชุมกันที่กรุงบรัสเซลส์ในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพื่อหารือรายละเอียดของข้อเสนอ
นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธาน EC ได้กล่าวกับนายจอห์นสันทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ว่า เขาขานรับการตัดสินใจของนายจอห์นสันที่จะผลักดันการเจรจาเรื่อง Brexit ก่อนการประชุมสภายุโรปในวันที่ 17 ต.ค.
นายยุงเกอร์ยอมรับความคืบหน้าในเชิงบวก ขณะที่ระบุว่า ยังคงมีปัญหาบางประการที่จำเป็นต้องดำเนินการต่อไปในไม่กี่วันข้างหน้านี้
เกี่ยวกับการป้องกันการกลับไปใช้มาตรการคุมเข้มบริเวณพรมแดนนั้น นายยุงเกอร์ได้กล่าวถึงความจำเป็นในการปกป้องตลาดเดียวของ EU และ สถานะของไอร์แลนด์ในตลาดนั้น
"EC จะตรวจสอบข้อความทางกฎหมายอย่างไม่มีอคติ และตามหลักเกณฑ์ซึ่งเป็นที่รู้จักของเรา" นายยุงเกอร์กล่าว "EU ต้องการข้อตกลง เรายังคงเป็นหนึ่งเดียวกัน และพร้อมที่จะทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันเพื่อให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เช่นเดียวกับที่เราได้ดำเนินการมากว่า 3 ปีแล้วในขณะนี้"
นายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าฝ่ายเจรจาของ EU กล่าวว่า "มีความคืบหน้า" หลังจากได้รับข้อเสนอของนายจอห์นสันที่จะตัดประเด็นนโยบาย backstop เกี่ยวกับไอร์แลนด์ และกล่าวเสริมว่า เขาเต็มใจที่จะดำเนินการเพื่อให้บรรลุข้อตกลง
รัฐบาลไอร์แลนด์เปิดเผยว่า นายลีโอ วาราดคาร์ นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ได้พูดคุยกับนายจอห์นสันทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้
รัฐบาลไอร์แลนด์ระบุว่า ขณะที่ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ทั้งหมดเกี่ยวกับนโยบาย backstop ดังนั้น นายวาราดคาร์จะทำการศึกษาข้อเสนอในรายละเอียดเพิ่มเติม
ด้านนายจอห์น แมคดอนเนลล์ รัฐมนตรีคลังเงาของพรรคแรงงานอังกฤษระบุว่า ข้อเสนอของนายจอห์นสันว่า ไม่น่าเชื่อถือและไม่สามารถใช้การได้
"ข้อเสนอดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะผลักดัน Brexit แบบไม่มีข้อตกลง" นายแมคดอนเนลกล่าว "นายบอริส จอห์นสัน ไม่มีความตั้งใจ หรือความสามารถในการเจรจาข้อตกลง หรือปกป้องงานและชุมชนทั่วสหราชอาณาจักร"
นายแมคดอนเนลล์เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทั่วไป และทำการลงประชามติ Brexit ใหม่
นอกจากนี้ นายไมเคิล รัสเซลล์ รมว.กระทรวงกิจการด้านรัฐธรรมนูญของสก็อตแลนด์ก็ได้แสดงปฏิกริยาในเชิงลบกับแผนการของนายจอห์นสันด้วย
"ดูเหมือนว่าข้อเสนอเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อที่จะล้มเหลว และรัฐบาลสหราชอาณาจักรมีความตั้งใจที่จะผลักดัน Brexit แบบไม่มีข้อตกลง" นายรัสเซลล์กล่าว
"แผนการนี้ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการเจรจา รัฐบาลอังกฤษกำลังถอนตัวจากการดำเนินการก่อนหน้านี้ และเรียกร้องให้ EU ยอมรับหลักการพื้นฐาน ซึ่ง EU ก็จะไม่ยอมรับ" นายรัสเซลล์กล่าว
- การหาทางปิดสมัยประชุมรัฐสภาอีกครั้ง
เมื่อวานนี้ รัฐบาลอังกฤษระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจะหาทางปิดสมัยประชุมรัฐสภาอีกครั้งในวันอังคารหน้าก่อนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะพระราชทานพระบรมราโชวาทในวันที่ 14 ต.ค.
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากที่ศาลฎีกาของอังกฤษได้ตัดสินว่า การสั่งพักสมัยประชุมสภา 5 สัปดาห์ก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
สำหรับครั้งนี้ จะเป็นการพักสมัยประชุมเพียงไม่กี่วันเพื่อปูทางให้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเปิดสมัยประชุมสภาใหม่
สำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายจอห์นสันได้ทำการประนีประนอมอย่างเป็นธรรมและสมเหตุสมผลสำหรับการถอดนโยบาย backstop ของไอร์แลนด์ และเพื่อการถอนอังกฤษออกจาก EU
นางแคโรลีน แฟร์เบียร์น ผู้อำนวยการของสหพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษกล่าวว่า "การไม่มีข้อตกลงใดๆ จะเป็นความล้มเหลวในประวัติศาสตร์ของรัฐบาล เราได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเปิดกว้างสำหรับโอกาสที่จะผลักดัน Brexit แบบมีข้อตกลง"