ผลการสำรวจภาวะการเงินของภาคครัวเรือนจีนซึ่งจัดทำโดยมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ร่วมกับสถาบันวิจัยทางการเงินภายใต้การดูแลของบริษัทอาลีบาบา พบว่า การชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือในประเทศจีนเป็นปัจจัยสนับสนุนการอุปโภคบริโภคของภาคครัวเรือน
ผลการสำรวจระบุว่า การชำระเงินผ่านมือถือได้กระตุ้นการอุปโภคบริโภคของภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 16.01% และทำให้โครงสร้างด้านการอุปโภคบริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
ในพื้นที่ชนบท การชำระเงินทางมือถือช่วยให้การอุปโภคบริโภคพุ่งขึ้น 22.1% ส่วนในพื้นที่เขตเมืองนั้น การอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้น 12.79% จากอานิสงส์ของการชำระเงินทางมือถือ
ผลสำรวจยังระบุด้วยว่า การอุปโภคบริโภคของครอบครัวจีนที่มีรายได้น้อย รายได้ปานกลาง และรายได้สูง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.81%, 16.5% และ 6.04% ตามลำดับ หลังจากที่ภาคครัวเรือนเหล่านี้เริ่มหันมาชำระเงินผ่านทางมือถือ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหยิน จือเฉา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินซึ่งเป็นผู้นำการวิจัยครั้งนี้ กล่าวว่า "ความนิยมในการชำระเงินด้วยมือถือในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น ได้ทำให้รูปแบบทางธุรกิจของบรรดาบริษัทเอกชนและพฤติกรรมการอุปโภคบริโภคของภาคครัวเรือนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการพัฒนาอีคอมเมิร์ซ ลดต้นทุนการทำธุรกรรม และทำให้การอุปโภคบริโภคมีความสะดวกสะบายมากขึ้น"