นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยบรรลุข้อตกลง Brexit แล้ว โดยได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับข้อตกลงใหม่ที่เยี่ยมยอด ขณะที่นายฌอง คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปก็กล่าวด้วยว่า ได้มีการบรรลุข้อตกลงแล้ว
รายงานข่าวระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้ทำงานร่วมกันในประเด็นเรื่องกฎหมายของข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งยังต้องได้รับการอนุมัติจากทั้งรัฐสภาของสหราชอาณาจักรและรัฐสภายุโรป
ขณะที่พรรคสหภาพประชาธิปไตยแห่งไอร์แลนด์เหนือ (DUP) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอังกฤษ ยังคงกังขาเกี่ยวกับการลงนาม พร้อมกับระบุว่า พรรคคงจะไม่สามารถสนับสนุนข้อตกลงนี้ได้
-- จาค็อบ รีส-ม็อกก์ ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน วางแผนที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันเสาร์นี้ ก่อนที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะอภิปรายว่าจะรับรองข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ที่นายจอห์นสันเห็นชอบร่วมกับสหภาพยุโรป หรือจะออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลง
-- นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐและตุรกีได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรียแล้ว และกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดภัย หรือ เซฟโซน
นายเพนซ์เปิดเผยภายหลังจากเจรจาร่วมกับนายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีเมื่อวานนี้ว่า "ข้อตกลงหยุดยิงมีกำหนดเวลา 5 วัน เพื่อให้กลุ่มนักรบชาวเคิร์ด (YPG) ถอนกำลังออกจากพื้นที่ตอนเหนือของซีเรีย ขณะที่ฝ่ายตุรกีจะหยุดปฏิบัติการ Operation Peace Spring เพื่อเปิดทางให้กองกำลัง YPG ออกจากเซฟโซนภายใน 120 ชั่วโมง และสหรัฐจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อตุรกีทันทีที่เริ่มมีการหยุดยิง"
-- แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว เปิดเผยว่า สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าอย่างมีไม่เคยเป็นมาก่อนในการเจรจาข้อตกลงการค้า
นายคุดโลว์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี โดยระบุว่า การเจรจามีความคืบหน้าในส่วนที่เกี่ยวกับบริการทางการเงิน สกุลเงิน และอื่นๆ พร้อมเผยด้วยว่า เขามองเห็นแรงผลักดันที่จะนำไปสู่การบรรลุข้อตกลง
-- บริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3/2562 เพิ่มขึ้นสู่ 2.17 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.27 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่รายได้สุทธิเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า ผลกำไรไตรมาส 3 ของมอร์แกน สแตนลีย์ อาจอยู่ที่ 1.11 ดอลลาร์ต่อหุ้น และรายได้สุทธิอาจอยู่ที่ 9.9 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลจากรายได้ที่สูงขึ้นจากการซื้อขายพันธบัตร และค่าธรรมเนียมในการให้คำปรึกษาเรื่องการควบรวมกิจการ
-- กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน เปิดเผยว่า ทางกระทรวงได้ออกใบรับรองให้กับบริษัทเทสลา อิงค์ ของสหรัฐแล้ว เพื่อให้เทสลา สามารถเริ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน
ทั้งนี้ เทสลากำลังก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ในต่างประเทศแห่งแรกของเทสลา
-- กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2563 ลงสู่ระดับ 1.0% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 1.5% เนื่องจากเศรษฐกิจเยอรมันชะลอตัวอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์ไม่แน่นอนในต่างประเทศ แต่ยืนยันว่า สภาพเศรษฐกิจของประเทศซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปยังไม่ถึงขั้นวิกฤต
ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงยังเชื่อว่าเศรษฐกิจเยอรมันจะยังคงขยายตัวได้ในปีนี้ โดยคงคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2562 ไว้ที่ 0.5%
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 9.4% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.256 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับระดับ 1.386 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2550 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน อาจลดลงสู่ระดับ 1.320 ล้านยูนิตในเดือนก.ย.
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 9.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ต.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐน่าจะเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ทางการจีนเตรียมประกาศผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3, ยอดค้าปลีกเดือนก.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนก.ย. เวลา 09.00 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนก.ย. เวลา 14.00 น.
ส่วนสหรัฐจะมีการประกาศดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.จาก Conference Board เวลา 21.00 น.