ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 57.44 จุด หรือ 0.21% เมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับมุมมองบวกที่ว่า สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้า โดยปัจจัยบวกดังกล่าวช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิป เนื่องจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในกลุ่มนี้มีการลงทุนจำนวนมากในประเทศจีน
-- จับตาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยสถานการณ์ในขณะนี้ส่งสัญญาณด้านบวก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงในการยุติการทำสงครามการค้า ขณะที่การเจรจาการค้ามีความคืบหน้าอย่างมาก
ทางด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) กล่าวว่า รัฐบาลมีเป้าหมายในการสรุปข้อตกลงขั้นที่ 1 ก่อนที่การประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) จะมีขึ้นที่ประเทศชิลีในวันที่ 16-17 พ.ย. เพื่อที่ปธน.ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะลงนามข้อตกลงฉบับนี้ในการประชุมดังกล่าว
-- นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ท่ามกลางความหวังที่ว่า อังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะ "no-deal Brexit" ได้ แม้ EU ยังไม่ได้ตอบรับต่อข้อเสนอของรัฐบาลอังกฤษเกี่ยวกับการขยายเส้นตาย Brexit จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ก็ตาม
ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษพยายามผลักดันให้รัฐสภารับรองร่างกฎหมายที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินการด้าน Brexit โดยหวังว่ารัฐสภาจะให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนกำหนดเส้นตายที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU ในวันที่ 31 ต.ค.นี้
-- โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดโอกาสที่จะเกิดสถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไร้ข้อตกลง (no-deal Brexit) เหลือเพียง 5% จากเดิม 10% ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังคงมีมุมมองว่าอังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ภายในวันที่ 31 ต.ค.
ขณะเดียวกัน ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ทางธนาคารคาดการณ์ว่าอังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นระบบ โดยจะมีช่วงการเปลี่ยนผ่านจนถึงเดือนธ.ค.2563, 2564 หรือ 2565 นอกจากนี้ ซิตี้กรุ๊ปยังคาดการณ์ว่าจะมีโอกาสลดลงในการเกิด no-deal Brexit
-- ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงมีความหวาดกลัวมากขึ้น เมื่อการประท้วงในฮ่องกงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยประชากรมากกว่า 1 ล้านคน จาก 7.5 ล้านคนในฮ่องกงนั้น มาจากจีนแผ่นดินใหญ่
ชาวจีนบางคนได้หลีกเลี่ยงการพูดภาษาจีนกลางในที่สาธารณะ เพราะกลัวว่าพวกเขาจะถูกทำร้ายในฮ่องกงซึ่งประชาชนส่วนใหญ่พูดภาษาจีนกวางตุ้ง ขณะที่ชาวจีนคนอื่นๆ ปฏิเสธที่จะเดินทางด้วยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค หลังจากที่พนักงานของสายการบินบางคนเข้าร่วมในเหตุการณ์ความไม่สงบ และมีชาวจีนเพียงไม่กี่คนที่คิดจะย้ายออกจากฮ่องกงหรือย้ายธุรกิจของพวกเขา
-- ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่บวกขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากมีสัญญาณเชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และก่อนการเปิดเผยผลประกอบการจากบริษัทขนาดใหญ่บางแห่ง ขณะที่ราคาพันธบัตรปรับตัวลง และสัญญาฟิวเจอร์บ่งชี้ว่า หุ้นออสเตรเลียและฮ่องกงมีแนวโน้มเปิดตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่การซื้อขายอาจซบเซา เนื่องจากตลาดญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุด
ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือนเหนือระดับ 3,000 เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแอปเปิลทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-- อาคันตุกะจากประมาณ 180 ประเทศจะรวมตัวกันที่ญี่ปุ่นในวันนี้เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะแห่งญี่ปุ่น ซึ่งสืบทอดบัลลังก์เบญจมาศจากสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระราชบิดาชันษา 85 ปีมาเกือบ 6 เดือนแล้ว โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นจะจัดขึ้นที่พระราชวังอิมพีเรียลในใจกลางกรุงโตเกียวเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ อาชญากรที่กระทำความผิดเล็กน้อยราวครึ่งล้านคนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในขณะที่ขบวนพาเหรดที่สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะจะทรงประทับบนรถลีมูซีนแบบเปิดประทุนนั้นได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 10 พ.ย. เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ประสบภัยพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสเมื่อต้นเดือนนี้
-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า พิธีเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ซึ่งจะจัดขึ้นที่พระราชวังอิมพีเรียลในสัปดาห์นี้ จะมีค่าใช้จ่าย 1.63 หมื่นล้านเยน (152 ล้านดอลลาร์) หรือราว 4,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับพิธีเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะในเดือนพ.ย. 2533
รัฐบาลระบุว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุจากประมุขและผู้นำประเทศที่ได้รับเชิญมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับพิธีเฉลิมฉลองในปี 2533
-- บริษัทเหมาไถ่ (Moutai) ซึ่งเป็นผู้ผลิตสุราระดับพรีเมียมของจีน มีส่วนแบ่งตลาดพุ่งขึ้น 123% แล้วนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561 ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 2.08 แสนล้านดอลลาร์ และทำให้เหมาไถ่ขึ้นแท่นเป็นบริษัทผลิตสุราที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโลก
นายมาร์ค ฮวง นักวิเคราะห์จากไบรท์ สมาร์ท ซีเคียวริตีส์กล่าวว่า สถานะของเหมาไถ่ในฐานะผู้ผลิตสุราที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของจีน จะช่วยสนับสนุนราคาหุ้นของบริษัทในระยะยาว แม้ราคาหุ้นมีการซื้อขายที่ค่า PE ใกล้เคียง 30 เท่าสำหรับช่วง 12 เดือนข้างหน้าแล้วก็ตาม
-- นายไมเคิล โกฟ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า สหภาพยุโรป (EU) ยังไม่ได้ตอบรับต่อข้อเสนอของรัฐบาลอังกฤษเกี่ยวกับการขยายเส้นตายการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ส่งผลให้เขาต้องเร่งจัดทำแผนรับมือความเป็นไปได้มากขึ้นที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
"ผมต้องดำเนินการในการเตรียมพร้อมรับมือความเป็นไปได้ที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง" นายโกฟกล่าวต่อรัฐสภาอังกฤษ
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. และ สหรัฐเตรียมเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และ ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดริชมอนด์