บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ทรุดตัวลงเกือบ 60% แตะระดับ 425 ล้านดอลลาร์ หรือ 11 เซนต์ต่อหุ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างบริษัท และยอดขายรถรุ่นใหม่ที่ชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ฟอร์ดระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างบริษัทอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์
ส่วนรายได้ปรับตัวลดลง 2% แตะระดับ 3.699 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเป็นผลมาจากปัญหาด้านคุณภาพของรถเอสยูวี Ford Explorer รุ่นใหม่ ทำให้ต้องระงับการจัดส่งไว้ โดยยอดขายรถยนต์รุ่นดังกล่าวดิ่งลงถึง 48% ในไตรมาส 3 นอกจากนี้ ยังประสบปัญหายอดขายในจีนและอเมริกาเหนือที่ซบเซาด้วย
ทั้งนี้ ฟอร์ดคาดการณ์ว่า กำไรจากการดำเนินงานในปีนี้จะอยู่ระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าปีก่อน