World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 30, 2019 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลมาเลเซียเตรียมปรับลดจำนวนแรงงานต่างชาติลงกว่า 130,000 ตำแหน่งในระยะเวลา 5 ปี พร้อมสนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ จ้างแรงงานทักษะสูงชาวมาเลเซียมากขึ้น โดยหวังที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

อย่างไรก็ตาม บริษัทท้องถิ่นระบุว่า พวกเขายังต้องการแรงงานทักษะต่ำชาวต่างชาติ เพื่อมาทำงานประเภทการเก็บลูกอินทผาลัม หรือการซักรีด

-- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ต้องการที่จะกำหนดวิธีและสถานที่ที่บริษัทรถยนต์ทั่วโลกจะผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อรักษาสิทธิด้านการปลอดภาษีภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ ซึ่งนับเป็นการแทรกแซงโดยตรงที่สุดในการจัดการด้านการค้าและการผลิต

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยว่า กองกำลังสหรัฐได้สังหารบุคคลที่มีแนวโน้มว่า จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)

"เราได้รับการยืนยันว่าตัวแทนเบอร์หนึ่งที่จะก้าวมาแทนนายอาบู บัคร์ อัล-บักดาดี ถูกกำจัดโดยทหารสหรัฐแล้ว" ปธน.ทรัมป์ทวิตข้อความ

-- พรรคเดโมแครตได้เปิดเผยเนื้อหาของมติพรรค ที่มีเป้าหมายเพื่อให้กระบวนการยื่นถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ

-- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทเฟียต ไครสเลอร์ และบริษัทพีเอสเอ ซึ่งผลิตรถยนต์เปอโยต์ กำลังเจรจาควบกิจการ เพื่อทำข้อตกลงจัดตั้งบริษัทผลิตรถยนต์มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านบริษัทเฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ (FCA) ได้ออกมายืนยันในวันนี้ว่า บริษัทกำลังเจรจาเพื่อควบกิจการกับบริษัทพีเอสเอ กรุ๊ป (PSA) ซึ่งผลิตรถยนต์เปอโยต์

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เปิดฉากการประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันในวันนี้ ในขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ จะปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจสร้างแรงกดดันให้แบงก์ชาติญี่ปุ่นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

-- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ในกรุงเทพฯ สัปดาห์หน้า ซึ่งนับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาค

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นับเป็นครั้งแรกที่การประชุม EAS จะไม่มีประธานาธิบดีหรือรัฐมนตรีจากสหรัฐเข้าร่วม นับตั้งแต่ที่สหรัฐเข้ามาเป็นสมาชิกกรอบความร่วมมืออาเซียนอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2554 และการตัดสินใจดังกล่าวอาจนำไปสู่การตั้งคำถามถึงพันธสัญญาของปธน.ทรัมป์ที่มีต่อภูมิภาคเอเชีย ท่ามกลางอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ