นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยในวันนี้ว่า จีนและสหรัฐได้ตกลงกันที่จะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของแต่ละฝ่ายตามสัดส่วนในแต่ละเฟส โดยจำนวนการยกเลิกภาษีซึ่งจะอยู่ในข้อตกลงเฟสแรกที่จะมีการลงนามในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะขึ้นอยู่กับเนื้อหาของข้อตกลงดังกล่าว พร้อมระบุว่าทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจากันอย่างสร้างสรรค์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับ 0.75% ในการประชุมวันนี้ แม้ธนาคารกลางในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ในช่วงเวลาที่อังกฤษเตรียมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. และการที่เส้นตายของอังกฤษที่จะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ถูกเลื่อนออกไปเป็นที่ 31 ม.ค.ปีหน้านั้น อาจทำให้นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE ยังไม่ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ขยายตัว 6.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 6% และแข็งแกร่งกว่าในไตรมาส 2 ที่ขยายตัวเพียง 5.5% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลประสบความสำเร็จในการกระตุ้นการใช้จ่าย
-- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของเกาหลีใต้ที่ระดับ AA โดยระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ยังคงมีเสถียรภาพ เนื่องจากเชื่อว่า ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในคาบสมุทรเกาหลีจะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า
-- กระทรวงเกษตร อาหาร และกิจการชนบทของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ยอดส่งออกสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้น 1.3% ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ แตะที่ 5.79 พันล้านดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดส่งออกสูงขึ้นนั้นมาจากสินค้าจำพวกอาหารสด ซึ่งปรับตัวขึ้น 7.7% ในช่วงเวลาดังกล่าว แตะที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์
-- ผลสำรวจของ YouGov บ่งชี้ว่า คะแนนสนับสนุนพรรคอนุรักษ์นิยมของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลดลงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากการเริ่มรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปอย่างเป็นทางการของเขาได้รับผลกระทบจากการลาออกของรัฐมนตรีรายหนึ่งในคณะรัฐบาล และการแสดงความเห็นที่ไม่เหมาะสมของรัฐมนตรีรายหนึ่งเกี่ยวกับผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุเพลิงไหม้ที่เกร็นเฟลล์ ทาวเวอร์เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ยืนยันว่า นายเรเซป ตอยยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี จะเดินทางเยือนสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นการสยบกระแสคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่า นายเออร์โดกันอาจยกเลิกการเดินทางเยือนเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่เปราะบาง
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความว่า เขาได้มีการสนทนาทางโทรศัพท์ที่ดีกับนายเออร์โดกัน พร้อมกับตั้งตารอที่จะได้พบกับนายเออร์โดกันในวันที่ 13 พ.ย. นี้ที่ทำเนียบขาว พร้อมเสริมว่า เขาได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องชายแดนตุรกี-ซีเรีย การกำจัดการก่อการร้าย การยุติการสู้รบกับชาวเคิร์ด และหัวข้ออื่น ๆ อีกมากมาย