ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เขาไม่เห็นด้วยต่อการยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ถึงแม้ว่าจีนต้องการให้เขาดำเนินการดังกล่าวก็ตาม
คำกล่าวของปธน.ทรัมป์สวนทางกับแถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีนที่ว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงกันที่จะทยอยยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าของแต่ละฝ่ายที่มีการกำหนดขึ้นในช่วงที่สหรัฐและจีนทำสงครามการค้าก่อนหน้านี้
-- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่เชิงลบ จากมีเสถียรภาพ โดยระบุถึงความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในการกำหนดนโยบายต่างๆ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
มูดี้ส์ระบุว่า การปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่กระบวนการกำหนดนโยบายในปัจจุบันของอังกฤษประสบกับภาวะชะงักงัน อันเป็นผลมาจากการดำเนินการเกี่ยวกับ Brexit
-- อาลีบาบา กรุ๊ป บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน เปิดเผยว่า ยอดขายภายในชั่วโมงแรกของเทศกาลช็อปปิงวันคนโสด (Singles' Day) ในวันนี้ อยู่ที่ระดับ 9.12 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.9 หมื่นล้านหยวน
ทั้งนี้ วันคนโสดในวันที่ 11 เดือน 11 (11/11) นับเป็นเทศกาลช็อปปิงที่สำคัญของจีน และอีกหลายประเทศทั่วโลก
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขายโดยรวมในวันคนโสดของอาลีบาบาอาจสูงถึง 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
-- นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรส ในวันที่ 13 พ.ย.นี้ เวลา 11.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือประมาณ 23.00 น.ตามเวลาไทย
-- สถานการณ์ในฮ่องกงยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย โดยรายงานล่าสุดจากหนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี ของฮ่องกง ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้ใช้กระสุนจริงยิงผู้ประท้วงเช้านี้ โดยมีวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และถูกตำรวจจับกุมแล้ว
ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงวางแผนจัดการชุมนุมประท้วงทั่วเกาะฮ่องกงอีกถึงวันนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า สถานการณ์ประท้วงจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากที่นายโจว ซี-ลก วัย 22 ปีนักศึกษาปี 2 มหาวิทยาลัยฮ่องกงเสียชีวิตแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากพลัดตกจากอาคารที่จอดรถย่านซึง กวาน โอ ขณะที่เขาเข้าร่วมการประท้วงเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสลายการชุมนุมด้วยการใช้แก๊สน้ำตา
-- สายการบินเซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์ส และ สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า สายการบินทั้งสองแห่งจะขยายเวลาระงับการให้บริการเที่ยวบินด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX ไปจนถึงต้นเดือนมี.ค. 2563
ก่อนหน้านี้ สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ได้สั่งระงับการให้บริการเที่ยวบินดังกล่าว 140 เที่ยวต่อวันจนถึงวันที่ 15 ม.ค. 2563 และขณะนี้ได้ประกาศขยายเวลาระงับให้บริการดังกล่าวออกไปอีกจนถึงวันที่ 4 มี.ค. 2563
-- เฟซบุ๊ก และยูทูบ กำลังดำเนินการลบคอนเทนต์ที่ระบุถึงชื่อบุคคลที่อาจเป็นผู้ชี้เบาะแสที่นำไปสู่การไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ
โฆษกของเฟซบุ๊กระบุในแถลงการณ์ว่า การกล่าวถึงชื่อบุคคลที่อาจเป็นผู้แจ้งเบาะแสในคดีการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์นั้น ถือเป็นการละเมิดนโยบายของเฟซบุ๊กซึ่งห้ามไม่ให้มีการโพสต์คอนเทนต์ที่เปิดเผยชื่อพยาน, ผู้ให้ข้อมูล หรือนักเคลื่อนไหว
โฆษกของเฟซบุ๊กระบุว่า เฟซบุ๊กกำลังทำการลบคอนเทนต์ที่ระบุชื่อของผู้แจ้งเบาะแส และจะทบทวนการตัดสินใจนี้อีกครั้ง หากชื่อของพวกเขาถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางในสื่อ หรือถูกใช้โดยบุคคลสาธารณะในการอภิปราย
ส่วนโฆษกของยูทูบกล่าวว่า บริษัทจะทำการลบวิดีโอที่ระบุถึงชื่อผู้แจ้งเบาะแส โดยจะใช้การผสมผสานระหว่างการตรวจสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และการตรวจสอบโดยมนุษย์เพื่อกำจัดคอนเทนต์เหล่านั้น
-- นายอดัม มอสเซอรี ซีอีโอของอินสตาแกรมเปิดเผยว่า อินสตราแกรมจะเริ่มซ่อนยอดไลค์สำหรับผู้ใช้บางรายในสหรัฐในสัปดาห์หน้า
นายมอสเซอรีประกาศในการประชุม Wired25 ในซานฟรานซิสโกว่า แนวคิดดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะลดแรงกดดันสำหรับผู้ใช้อินสตาแกรม โดยลดการแข่งขันระหว่างผู้ใช้งาน แต่เขาไม่ได้ระบุว่า มีผู้ใช้งานในสหรัฐจำนวนเท่าใดเข้าร่วมในการทดลองดังกล่าว
ทั้งนี้ อินสตาแกรมได้เริ่มทำการทดลองซ่อนยอดไลค์ในแคนาดาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก่อนที่จะขยายการทดลองไปยังออสเตรเลีย, บราซิล, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ใช้งานอินสตาแกรมจะยังคงสามารถเห็นจำนวนไลค์ที่ได้รับสำหรับโพสต์ของตนเองได้ แต่ผู้ใช้อื่นๆ จะไม่สามารถเห็นยอดไลค์รวมเหล่านั้นได้
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยทำสถิติขยายตัวสูงสุดนัในปีนี้ และสูงกว่าในเดือนก.ย.ที่มีการขยายตัว 3%
รายงานของสำนักงานสถิติระบุว่า ราคาอาหารพุ่งขึ้น 15.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 11.2% ขณะที่ราคาสินค้านอกหมวดอาหาร ขยับขึ้นเพียง 0.9% ซึ่งชะลอตัวลง 0.1% จากระดับในเดือนก.ย.
-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ปรับตัวลง 2.9% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 8.502 แสนล้านเยน (7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร ซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นนั้น ลดลงในเดือนก.ย. หลังจากที่ปรับตัวลง 2.4% ในเดือนส.ค.
-- จับตาอังกฤษเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เบื้องต้นไตรมาส 3/2562 ในวันนี้ เวลา 16.30 น.ตามเวลาไทย
ส่วนในวันพรุ่งนี้ อังกฤษเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ขณะที่สถาบัน ZEW มีกำหนดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ของสหภาพยุโรป และเยอรมนี ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB)