ทีมงานของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งนำโดยบริษัทโซจิทสึ คอร์ป สามารถคว้าสัญญาณในการทำข้อตกลงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมในย่านการเมืองและธุรกิจของเมียนมา โดยชนะบริษัทชื่อดังอย่างหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน และเคที คอร์ปของเกาหลีใต้
ทีมงานดังกล่าว ซึ่งรวมถึงบริษัทเอ็นทีที คอมมูนิเคชัน คอร์ป, เอ็นอีซี คอร์ป และบริษัทในเครือเอ็นอีซี ได้ปิดดีลมูลค่า 7 พันล้านเยน (64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวานนี้ กับเมียนมาโพสต์ แอนด์ เทเลคอมมูนิเคชันส์ ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ในเมียนมา
ข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดให้มีการเชื่อมต่อระบบโทรคมนาคมใน 3 เมืองหลัก ซึ่งได้แก่ เมืองเนปิดอว์, ย่างกุ้ง, มัณฑะเลย์ และเขตเศรษฐกิจพิเศษธิลาวา
แถลงการณ์ระบุว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนเครือข่ายเซลลูลาร์จากเทคโนโลยี 5G และจะเป็นโครงการด้านโทรคมนาคมโครงการแรกในเมียนมาที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของรัฐบาลญี่ปุ่น ขณะที่เครือข่ายโทรคมนาคมปัจจุบันของเมียนมาที่จัดตั้งขึ้นในปี 2556 ก็มาจากความช่วยเหลือของญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมียนมาจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม เนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 90% ของจำนวนประชากร จากระดับ 10% ในปี 2557