นายนีล แคชคารี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีอาโพลิส เปิดเผยว่า มาตรการภาษีศุลกากรและการค้ายังคงเป็นความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดต่อเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากทำให้ภาคเอกชนลดปริมาณการลงทุน
นายแคชคารีกล่าวในการประชุมหอการค้าพาณิชย์ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองมินนีอาโพลิสเมื่อวานนี้ว่า "มุมมองโดยรวมของผมในขณะนี้คือ เศรษฐกิจยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผมไม่คิดว่าเศรษฐกิจจะถดถอย อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ โดยความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดก็คือมาตรการภาษีศุลกากรและการค้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในด้านต่างๆ"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานเฟดมินนีอาโพลิสยังกล่าวด้วยว่า แม้ผู้บริโภคสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและค่าจ้างปรับตัวสูงขึ้น แต่สัญญาณบ่งชี้ล่วงหน้าแสดงให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากภาคธุรกิจได้ปรับลดการลงทุน
"เรากำลังเห็นความกังวลนี้ทั่วทั้งภูมิภาคและทั่วประเทศ ภาคธุรกิจเองก็กังวลเกี่ยวกับทิศทางในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เข้าไปลงทุนทั่วโลก" เขากล่าว
อย่างไรก็ดี นายแคชคารีเชื่อว่า การลงทุนในภาคธุรกิจจะฟื้นตัวขึ้น หากสงครามการค้าคลี่คลายลง
"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หากสงครามการค้าและประเด็นภาษีศุลกากรคลี่คลายลง ก็จะทำให้ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ซึ่งคุณจะได้เห็นเม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น และจะทำให้เศรษฐกิจที่การเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต" นายแคชคารีกล่าว