นายไมรอย บริลเลียน รองประธานสภาหอการค้าสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและจีนจะยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเฟสแรกก่อนถึงเส้นตายการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนในวันที่ 15 ธ.ค.
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของจีน ได้เชิญนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เข้าร่วมการเจรจาการค้ารอบใหม่ที่กรุงปักกิ่ง
ทั้งนี้ นายหลิวได้เชิญนายมนูชิน และนายไลท์ไฮเซอร์ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยหวังว่าการเจรจาดังกล่าวจะมีขึ้นก่อนวันพฤหัสบดีหน้า ซึ่งเป็นวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐ
นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุว่า เจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐต้องการให้จีนให้คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ, ยกเลิกการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี และยืนยันการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ ก่อนที่จะมีการเจรจาครั้งใหม่
"ผมเคยอธิบายให้คุณเหอฟังว่า 'คุณควรจะต้องอะลุ่มอล่วยบ้าง' โดยจีนจะต้องยื่นข้อเสนอมากขึ้นในการทำข้อตกลงขั้นสุดท้าย" นายบริลเลียนกล่าว
"นี่เป็นครั้งที่ 6 ที่ผมได้นั่งลงคุยกับคุณเหอในรอบ 2 ปี ซึ่งผมบอกเขาว่า อย่าเรียกร้องมากเกินไป โดยจีนต้องการให้สหรัฐยกเลิกการจัดเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้า ซึ่งภาคธุรกิจของสหรัฐก็ต้องการเช่นนั้น แต่เราจะไม่เห็นการยกเลิกภาษีทั้งหมดหลังการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก" เขากล่าว
หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐและจีนกำลังใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก
แหล่งข่าวระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งเป็นกำหนดวันที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์ แต่ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนวันดังกล่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็มีแนวโน้มที่จะเลื่อนการจัดเก็บภาษีดังกล่าวออกไป เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้บริโภคของสหรัฐได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่จะพุ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน หากมีการเรียกเก็บภาษีจากจีน ขณะที่ใกล้กับช่วงเทศกาลช็อปปิ้งของสหรัฐ