นายอีฟ เมอร์ช สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของสหภาพยุโรป (EU) ควรเดินหน้าบังคับใช้มาตรการปฏิรูปที่จะผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มเงินทุน แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของ EU ก็ควรรักษาคำมั่นสัญญาที่ว่าจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มเงินทุนกันชน (capital buffer) เพิ่มเติม ภายหลังจากที่มาตรการปฏิรูปมีผลบังคับใช้แล้ว
นายเมอร์ช กล่าวว่า การรักษาเสถียรภาพของข้อกำหนดการดำรงเงินทุนนั้น ถือเป็นข้อเรียกร้องที่สมเหตุสมผลจากบรรดาธนาคารพาณิชย์ แต่ในขณะเดียวกันเราจะต้องดำเนินการตามเกณฑ์บาเซล 3 ให้ได้เสียก่อน เพราะการดำเนินการตามเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบนั้น จะส่งผลด้านบวกต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการปฏิรูปภาคธนาคารตามเกณฑ์บาเซล 3 นั้น ธนาคารพาณิชย์ใน EU จะถูกขอให้เพิ่มการสำรองเงินทุนประมาณ 24% โดยเฉลี่ย ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดสำหรับธนาคารในสหรัฐ