นางหู หยี่ฟาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า จีนยังคงเป็นตลาดที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และสถานการณ์ต่างๆที่ยังคงไม่แน่นอน
นางหูกล่าวว่า การที่หุ้น A-share ของจีนได้รับการเพิ่มน้ำหนักในการคำนวณดัชนี MSCI ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นระดับโลกนั้น จะเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนทั่วโลกเข้ามาเพิ่มพอร์ทการลงทุนในตลาดหุ้นจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับสองของโลก
สำหรับผลกระทบของข้อพิพาทการค้าที่มีต่อตลาดหุ้นจีนนั้น นางหูกล่าวว่า จีนยังคงรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ดีเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการค้ามีผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนแค่ในวงจำกัดเท่านั้น ซึ่งบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้พึ่งพาตลาดภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่
นางหูยังกล่าวด้วยว่า ตลาดพันธบัตรจะกลายเป็นแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ขณะที่สกุลเงินหยวนของจีนคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ นางหูคาดว่า ภาคไฮเทค เช่นเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค), โครงข่าย 5G และอุตสาหกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคนั้น จะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้เช่นกัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยูบีเอสคาดการณ์ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2563 จะอยู่ที่ระดับ 3% จากระดับ 3.1% ของปี 2562 ขณะเดียวกันคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่จะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 4.6% จากระดับ 4.2%