คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นเป็น 100% ในวงเงินราว 2.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้ฝรั่งเศสที่วางแผนเก็บภาษีดิจิทัลจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ อาทิ อเมซอน กูเกิล แอปเปิล และเฟซบุ๊ก
นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยว่า เขาได้เสนอให้รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากฝรั่งเศสเพิ่มเติม ในวงเงิน 2.4 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่า ผลการตรวจสอบนโยบายภาษีการบริการด้านดิจิทัลของฝรั่งเศสพบว่า เป็นนโยบายที่ "ไม่สมเหตุสมผล" และ "เลือกปฏิบัติ"
นายไลท์ไฮเซอร์เปิดเผยในช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาสหรัฐว่า เขากำลังออกหนังสือแจ้งเตือนในรูปของข้อมูลบันทึกราชการ (Federal Register) ซึ่งมีคำอธิบายในประเด็นดังกล่าว และหนังสือแจ้งเตือนที่มีคำร้องเรียนจากสาธารณะเกี่ยวกับการใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า ซึ่งรวมถึงการเรียเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากฝรั่งเศสในอัตราสูงถึง 100%
ในช่วงต้นเดือนม.ค.ปีหน้า USTR จะจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับการใช้มาตรการภาษีต่อสินค้าของฝรั่งเศส
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐได้ดำเนินการตรวจสอบตามมาตรา Section 301 หลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีการบริการด้านดิจิทัลเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยสหรัฐกล่าวหาว่า รัฐบาลฝรั่งเศสพุ่งเป้าเก็บภาษีบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐอย่างไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ แม้ว่าจะถูกคัดค้านจากสหรัฐ แต่รัฐสภาฝรั่งเศสได้ผ่านกฎหมายฉบับใหม่เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เพื่อเรียกเก็บภาษีดิจิทัลต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐเช่น กูเกิล อเมซอน เฟซบุ๊ก และแอปเปิล
ทางด้านนายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า ภาษีดิจิทัลถือเป็นสิ่งจำเป็นที่จะบังคับให้บริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ต้องจ่ายภาษีอย่างเป็นธรรม
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา รัฐสภาฝรั่งเศสอนุมัติให้มีการเรียกเก็บภาษีรายได้ของบริษัทกูเกิล อเมซอน และเฟซบุ๊ก โดยฝรั่งเศสจะเรียกเก็บภาษี 3% ต่อรายได้ที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสของบริษัทเทคโนโลยีราว 30 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทสหรัฐ