กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในรายงานประเมินภาวะเศรษฐกิจฮ่องกงว่า รัฐบาลฮ่องกงควรเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาอันเป็นผลจากข้อพิพาททางการค้าและความไม่สงบทางการเมือง
นอกจากนี้ รัฐบาลฮ่องกงยังควรเพิ่มการใช้จ่าย เพื่อจัดการกับปัญหาความไม่เท่าเทียมทางรายได้และอสังหาริมทรัพย์ด้วย และหากเศรษฐกิจย่ำแย่กว่าที่คาดว่า รัฐบาลฮ่องกงก็ควรหามาตรการทางการคลังระยะสั้นมารองรับเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
IMF ยังคาดการณ์ด้วยว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะหดตัวลง 1.2% ปีนี้ แต่ก็น่าจะขยายตัว 1% ในปีหน้า
ทั้งนี้ เหตุการณ์ความไม่สงบที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานเกือบ 6 เดือน และการส่งออกที่ได้รับแรงกดดันจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้น ได้ฉุดเศรษฐกิจฮ่องกงชะลอตัวลง
กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงยังคงเดินหน้าการชุมนุมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไม่ลดละ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจได้ใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม
นอกจากนี้ ชาวฮ่องกงเตรียมประท้วงช่วงพักเที่ยงตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาวันละ 2 ชั่วโมงตอนกลางวัน ขณะที่การชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงยังคงมีแนวโน้มยืดเยื้อ หลังจากพรรคการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสภาเขตฮ่องกง และรัฐบาลสหรัฐได้ออกกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง