คณะรัฐมนตรีของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวม 26 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 2.39 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง และเพื่อรับมือของผลกระทบจากมาตรการปรับขึ้นภาษีการบริโภคที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับแรกในรอบ 3 ปีนั้น จะมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค ด้วยการส่งเสริมให้มีการชำระหนี้โดยไม่ใช้เงินสด และกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณะ เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานหลังจากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายอาเบะเปิดเผยในการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและพรรครัฐบาลว่า "เราได้จัดทำมาตรการที่มีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของเราสามารถรอดพ้นจากความเสี่ยงขาลง"
ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับดังกล่าว รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการบริการฝึกฝนด้านการทำงาน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีอายุในช่วง 30-40 ปีที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเงินฝืดตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 นั้น ให้มีงานใหม่ทำ
ขณะเดียวกันรัฐบาลจะสนับสนุนบริษัทต่างๆในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย เพื่อรองรับโครงข่าย 5G อีกทั้งจะเพิ่มการจัดหาคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนรัฐบาล เพื่อส่งเสริมการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะช่วยเพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตร ในขณะที่การทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า