สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งสองข้อหา ซึ่งได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส ส่งผลให้ปธน.ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐรายที่ 3 ที่ถูกสภาคองเกรสพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง
หลังจากใช้เวลาในการอภิปรายเป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง ในที่สุด สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติถอดถอนปธน.ทรัมป์ในข้อหาแรก คือ การใช้อำนาจในทางมิชอบ โดยลงมติด้วยคะแนนเสียง 230 ต่อ 197 เสียง และหลังจากนั้นไม่นาน สภาผู้แทนฯมีมติด้วยคะแนนเสียง 229 ต่อ 198 ลงมติถอดถอนปธน.ทรัมป์ในข้อหาที่สอง คือการขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากราคาหุ้นเฟดเอ็กซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 10% อันเนื่องมาจากการที่บริษัทปรับลดแนวโน้มผลประกอบการในปีงบการเงิน 2563 ทั้งนี้ การร่วงลงของหุ้นเฟดเอ็กซ์ได้ฉุดราคาหุ้นของบริษัทอื่นๆในกลุ่มขนส่งดิ่งลงด้วย
เฟดเอ็กซ์ คอร์ป ได้แถลงเตือนนักลงทุนเมื่อวานนี้ว่า กำไรของบริษัทในปีงบการเงิน 2563 จะออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งได้กระทบต่อการค้าทั่วโลก นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวบริการส่งของภายใน 7 วัน ก็กระทบรายได้ของบริษัทเช่นกัน
-- นักอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ออสเตรเลียได้เผชิญกับสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูง โดยเผชิญกับวันที่มีอุณหภูมิสูงสุดไปแล้วที่ระดับ 40.9 องศาเซลเซียส
สำนักงานอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า สภาพอากาศร้อนแรงเมื่อวานนี้ อุณหภูมิแซงหน้าสถิติอุณหภูมิที่สูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 40.3 องศาเซีลเซียส
สภาพอากาศที่ร้อนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ออสเตรเลียต้องเผชิญกับสภาพอากาศแห้งแล้งอย่างรุนแรง และวิกฤตไฟป่า
-- หุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 3.7% แตะที่ 393.15 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ซึ่งถือเป็นระดับปิดที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากสื่อรายงานว่า เทสลาเตรียมปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model 3 ที่ผลิตในประเทศจีน เพื่อพยายามที่จะดึงดูดผู้ซื้อมากขึ้น โดยคาดว่าเทสลามีแนวโน้มที่จะปรับราคารถยนต์รุ่นดังกล่าวลง 20% หรือมากกว่าในช่วงกลางปี 2563 จากระดับที่กำหนดไว้เริ่มต้นที่ 355,800 หยวน (50,800 ดอลลาร์) และบริษัทวางแผนที่จะซื้อชิ้นส่วนในจีนเพื่อให้สามารถปรับลดราคารถยนต์รุ่นดังกล่าวได้
-- ศาสตราจารย์จาก MIT กล่าวว่า ของขวัญวันคริสมาสต์ที่เกาหลีเหนือจะมอบให้กับสหรัฐอาจเป็นขีปนาวุธพิสัยไกล หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธหลายครั้งตลอดช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์
"สารของเกาหลีเหนือมีความชัดเจน ซึ่งถือเป็นการกดดันขั้นสูงสุดของนาย คิม จอง อึนที่มีต่อปธน.ทรัมป์ เหมือนกับว่า หากคุณไม่ฟังผมเกี่ยวกับการพิจารณา การยกเลิกการคว่ำบาตร การการันตีความปลอดภัย การยกเลิกนโยบายที่มุ่งร้าย ผมก็จะแสดงให้เห็นว่าขีปนาวุธพิสัยไกลมีหน้าตาเป็นอย่างไร" ศาสตราจารย์วิปิน นารังกล่าว
-- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวเป็นอย่างดี โดยมีตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ขณะที่ผู้บริโภคยังคงทำการใช้จ่าย แต่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเกินไป
นายอีแวนส์ระบุว่า นโยบายการเงินมีความเหมาะสมในขณะนี้ แต่เขากังวลต่อการที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% โดยเฟดควรอนุญาตให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือระดับดังกล่าว เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อมีค่าเฉลี่ยที่ระดับ 2% เมื่อเวลาผ่านไป
ทั้งนี้ นายอีแวนส์ได้ลงมติเห็นชอบต่อการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้ง 3 ครั้งในปีนี้ และสนับสนุนการตัดสินใจของเฟดในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5-1.75% ในการประชุมเดือนนี้
-- นายแซม วู้ดส์ รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวว่า เขาจะทำการหารือกับบรรดาธนาคารพาณิชย์ในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า เพื่อตรวจสอบว่ากฎระเบียบต่างๆได้เป็นอุปสรรคต่อความสามารถของทางธนาคารในการยกเลิกการใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน (Libor) หรือไม่
ก่อนหน้านี้ BoE ได้สั่งปรับธนาคารหลายแห่งเป็นจำนวนเงินหลายพันล้านปอนด์ในข้อหาฉ้อโกง โดยการร่วมกันกำหนดอัตราดอกเบี้ย Libor ทำให้ BoE ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์หันมาใช้อัตราดอกเบี้ย Sonia ของ BoE เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับการกำหนดราคาสัญญาทางการเงิน เช่น ตราสารอนุพันธ์
-- ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ผู้นำอิหร่าน กล่าวว่า การที่อิหร่านไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากสหรัฐ จะทำให้สหรัฐเปลี่ยนแปลงแนวทางในการดำเนินการต่ออิหร่าน
"ชาวอเมริกันไม่มีทางเลือก นอกจากที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางที่พวกเขาเคยทำ เราจะบังคับพวกเขาให้ทำอย่างนั้น ด้วยการที่เราใช้การต่อต้านและความอดทน" นายรูฮานีกล่าว
นายรูฮานียังระบุว่า การที่สหรัฐใช้แรงกดดันต่ออิหร่านจะไม่สามารถดำเนินไปในระยะยาว
-- ผลการสำรวจพบว่า ชาวอเมริกันจำนวนก้ำกี่งมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ ผลการสำรวจ CNBC All-America Economic Survey พบว่า ผู้ถูกสำรวจ 45% คัดค้านการถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ขณะที่ 44% ให้การสนับสนุน แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย. ขณะที่ 10% ระบุว่า พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ ส่วน 11% ยังไม่แน่ใจ
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 5.2% ลดลงจากระดับ 5.3% ในเดือนต.ค. นอกจากนี้ อัตราว่างงานเดือนพ.ย.ยังออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.3%
ส่วนตัวเลขการจ้างงานโดยรวมในเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 39,900 ตำแหน่ง หลังจากที่ลดลง 19,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.ยังออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 15,000 ตำแหน่ง
-- จับตาความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ธนาคารกลางอังกฤษประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/2562, ดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ขณะที่อังกฤษเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน