สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในสองข้อหา ได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ ด้วยคะแนนเสียง 230 ต่อ 197 เสียง และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส ด้วยคะแนนเสียง 229 ต่อ 198 ก่อนส่งต่อไปให้วุฒิสภาพิจารณาต่อโดยมีกำหนดลงมติในเดือนม.ค.ปีหน้า
-- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเปิดเผยว่า เขาไม่ได้กระทำผิดจนถึงขั้นต้องถูกถอดถอนโดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และเชื่อมั่นว่า เขาจะรอดพ้นจากการถูกถอดถอนในการพิจารณาของวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก
"ประธานาธิบดีมีความมั่นใจว่าวุฒิสภาจะฟื้นฟูกระบวนการที่มีความสงบเรียบร้อย, ยุติธรรมและเหมาะสม ซึ่งทั้งหมดถูกเพิกเฉยในกระบวนการไต่สวนของสภาผู้แทนราษฎร โดยเขาพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป และมั่นใจว่า เขาจะรอดพ้นจากการถูกถอดถอนโดยสิ้นเชิง" เลขานุการสื่อระบุในแถลงการณ์
-- ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% และคงนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบมหาศาลไว้ในการประชุมวันนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะส่งสัญญาณของการชะลอตัวลงนับตั้งแต่ที่ได้มีการปรับขึ้นภาษีอุปโภคบริโภคเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม
-- กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของเกาหลีใต้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2563 ลงสู่ระดับ 2.4% จากตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนก.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.6%
-- กระทรวงการคลังนิวซีแลนด์เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2562 ขยายตัว 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี และหากเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 0.7% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายในภาคค้าปลีก
-- -มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท โบอิ้ง โค ลง 1 ขั้น สู่ระดับ A3 เนื่องจากมองว่า การที่โบอิ้งตัดสินใจระงับการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 MAX อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตทางการเงินของบริษัท
-- อัยการญี่ปุ่นบุกค้นสำนักงานของนายสึคาสะ อากิโมโตะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ในวันนี้ หลังจากเขาถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับบริษัทแห่งหนึ่งของจีนที่มีความสนใจในการเข้าร่วมโครงการคาสิโนซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าละเมิดกฎหมายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
-- ออสเตรเลียได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐนิวเซาท์เวลส์ในวันนี้ เนื่องจากคลื่นความร้อนและกระแสลมกรรโชกแรงทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดไฟไหม้อย่างใหญ่หลวง ซึ่งถือเป็นการประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งที่ 2 แล้วในรอบกว่า 1 เดือน หลังเกิดเหตุไฟไหม้มากกว่า 100 จุดทั่วทั้งรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยมีพื้นที่ป่าขนาดเล็กถูกไฟเผาไหม้ไปแล้วประมาณ 2.7 ล้านเฮคตาร์