บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในไตรมาส 4/2562 ลดลง 1.3% สู่ระดับ 601,862 คัน จากระดับ 609,693 คันในไตรมาส 4/2561 เนื่องจากความต้องการรถยนต์นั่งโดยสารปรับตัวลดลง สวนทางกับยอดขายรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์นั่งโดยสารทั้งหมดของฟอร์ดในสหรัฐในปี 2562 ลดลงราว 1% จากปี 2561 แต่ยังคงสูงกว่า 17 ล้านคันเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยผู้ซื้อมีความนิยมในรถยนต์นั่งโดยสารน้อยลง และเนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ให้ความสำคัญมากกว่ากับการผลิตรถ SUV และรถกระบะ เนื่องจากทำกำไรได้มากกว่า
การลดราคาในช่วงวันหยุด และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงได้ช่วยหนุนยอดขายรถบรรทุกของฟอร์ดสู่ระดับ 330,075 คันในไตรมาส 4/2562 เพิ่มขึ้นจาก 284,859 คันในปี 2561 ขณะที่ยอดขายรถยนต์นั่งโดยสารของฟอร์ดในไตรมาส 4/2562 ร่วงลง 41% สู่ระดับ 63,400 คัน