World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 14 มกราคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 14, 2020 09:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับข่าวสหรัฐและจีนเตรียมลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในวันพุธนี้ โดยความคืบหน้าดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในวันนี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และซิตี้กรุ๊ป

-- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมจัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนที่ทำเนียบขาวในวันพุธนี้ เวลา 11.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.30 น.ตามเวลาไทย โดยจะมีการเชิญแขกราว 200 คนเข้าร่วมพิธีดังกล่าว

นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัลยังรายงานว่า สหรัฐและจีนเห็นพ้องกันที่จะเริ่มการเจรจาทางด้านเศรษฐกิจทุก 6 เดือน นำโดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า และผลักดันการปฏิรูป

-- กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐได้ถอดจีนออกจากรายชื่อประเทศที่บิดเบือนค่าเงินแล้ว โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในวันพุธที่ 15 ม.ค.นี้

นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า "จีนมีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาต่างๆที่สหรัฐวิตกกังวล นอกจากนี้ จีนยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงการปรับลดค่าเงินเพื่อหวังผลด้านการแข่งขัน อีกทั้งสนับสนุนการดำเนินการที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือ"

-- จีนกำหนดอัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อยู่ที่ระดับ 6.8954 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.0309 หยวน หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐได้ถอดจีนออกจากรายชื่อประเทศที่บิดเบือนค่าเงินแล้ว

-- ราคาทองตลาดสปอตและตลาดฟิวเจอร์ร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจากสัญญาณบวกด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมจัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนที่ทำเนียบขาวในวันพุธนี้

ณ เวลา 08.37 น.ตามเวลาไทย ราคาทองตลาดสปอตร่วงลง 10.21 ดอลลาร์ หรือ 0.66% แตะที่ 1,538.18 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) เดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ ดิ่งลง 12.30 ดอลลาร์ หรือ 0.79% แตะที่ 1,538.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงเช้านี้

-- หุ้นเทสลาพุ่งขึ้นเหนือระดับ 500 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังนักวิเคราะห์ของบริษัทออพเพนไฮเมอร์ประกาศปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นเทสลาสู่ระดับ 612 ดอลลาร์/หุ้น จากระดับ 385 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ โดยเป็นการปรับขึ้นมากกว่า 20% หลังจากปิดตลาดที่ระดับ 478.15 ดอลลาร์ในวันศุกร์

ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายเทสลาของบริษัทออพเพนไฮเมอร์ถือเป็นระดับสูงสุดที่มีการคาดการณ์จากบริษัทในย่านวอลล์สตรีท ราคาหุ้นเทสลาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 4/2562 เพิ่มขึ้นเกินคาด และรัฐบาลจีนยืนยันว่าจะไม่ปรับลดเงินอุดหนุนโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้

-- การประท้วงที่ยืดเยื้อมากว่า 6 เดือนในฮ่องกง และการที่รัฐบาลฮ่องกงคาดว่า เศรษฐกิจหดตัวลง 1.3% ในปี 2562 นั้น กระตุ้นให้บริษัทบริหารทรัพย์สินเตรียมย้ายจากฮ่องกงไปเปิดสำนักงานในสิงคโปร์

บริษัทดัฟฟ์ แอนด์ เฟลป์ส ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินระดับโลก เปิดเผยว่า บริษัทบริหารสินทรัพย์ของฮ่องกงจำนวนมากขึ้นยื่นขออนุญาตเปิดสำนักงานในสิงคโปร์ ขณะที่บริษัทชุค ลิน แอนด์ บ็อค ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมายเปิดเผยว่า บริษัทฮ่องกงจำนวนมากขึ้นได้สอบถามและขอคำแนะนำด้านกฎหมายในการจัดตั้งบริษัทจัดการกองทุนในสิงคโปร์นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2562

-- กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนมีคำสั่งห้ามนายเคนเนท ร็อธ ผู้อำนวยการบริหารของฮิวแมน ไรท์ วอทช์ (HRW) เดินทางเข้าสู่ฮ่องกง โดยนายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลจีนและฮ่องกงดำเนินการเกี่ยวกับการผ่านเข้าออกชายแดนตามหลักกฎหมาย และจีนมีอำนาจตามอธิปไตยในการอนุญาตหรือปฏิเสธมิให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้าประเทศ

นายเกิงกล่าวว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่จากองค์กรเอกชน (NGO) บางรายได้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลจีนในฮ่องกง โดยมีการยุยงให้กระทำการรุนแรง และปลุกระดมสร้างความแตกแยกในฮ่องกง ซึ่ง NGO ดังกล่าวเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในฮ่องกง โดยองค์กรเหล่านี้สมควรถูกคว่ำบาตร และจะต้องชดใช้ต่อการกระทำที่เกิดขึ้น

-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจากจีน หลังจากทางการไทยเปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นรายแรก ซึ่งเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน และนับเป็นรายแรกที่ตรวจพบนอกประเทศจีน โดย WHO ระบุว่าอาจจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว

ขณะนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาจำนวน 41 รายในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยรายหนึ่งที่เสียชีวิต

-- บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปประกาศยุติการสนับสนุนโปรแกรม Windows 7 นับตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. โดยบริษัทจะไม่ทำการอัพเดทซอฟท์แวร์ หรือออกซอฟท์แวร์เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ต่อคอมพิวเตอร์ที่ทำงานบนโปรแกรม Windows 7 อีกต่อไป

ไมโครซอฟท์ระบุว่า ผู้ที่ใช้งานบนเครื่องที่ทำงานบนโปรแกรม Windows 7 มีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีด้วยไวรัสและมัลแวร์ ทางบริษัทจึงแนะนำให้เจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปีให้อัพเกรดเป็น Windows 10 โดยเสียค่าใช้จ่าย 139 ดอลลาร์ต่อเครื่อง แต่หากเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวมีอายุมากกว่า 3 ปี ไมโครซอฟท์ก็แนะนำให้ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่ทำงานบนโปรแกรม Windows 10

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ย. ขณะที่จีนเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค.และยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนธ.ค. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนธ.ค. และอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค., อินโดนีเซียเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค., อังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค., อียูเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนม.ค.จากเฟดนิวยอร์ก และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (เช้าวันที่ 16 ม.ค.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ