ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับข่าวสหรัฐและจีนเตรียมลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในวันพุธนี้ โดยความคืบหน้าดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในวันนี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และซิตี้กรุ๊ป
-- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมจัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนที่ทำเนียบขาวในวันพุธนี้ เวลา 11.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.30 น.ตามเวลาไทย โดยจะมีการเชิญแขกราว 200 คนเข้าร่วมพิธีดังกล่าว
นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัลยังรายงานว่า สหรัฐและจีนเห็นพ้องกันที่จะเริ่มการเจรจาทางด้านเศรษฐกิจทุก 6 เดือน นำโดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า และผลักดันการปฏิรูป
-- กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐได้ถอดจีนออกจากรายชื่อประเทศที่บิดเบือนค่าเงินแล้ว โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในวันพุธที่ 15 ม.ค.นี้
นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า "จีนมีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาต่างๆที่สหรัฐวิตกกังวล นอกจากนี้ จีนยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงการปรับลดค่าเงินเพื่อหวังผลด้านการแข่งขัน อีกทั้งสนับสนุนการดำเนินการที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือ"
-- จีนกำหนดอัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อยู่ที่ระดับ 6.8954 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.0309 หยวน หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐได้ถอดจีนออกจากรายชื่อประเทศที่บิดเบือนค่าเงินแล้ว
-- ราคาทองตลาดสปอตและตลาดฟิวเจอร์ร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจากสัญญาณบวกด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมจัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนที่ทำเนียบขาวในวันพุธนี้
ณ เวลา 08.37 น.ตามเวลาไทย ราคาทองตลาดสปอตร่วงลง 10.21 ดอลลาร์ หรือ 0.66% แตะที่ 1,538.18 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) เดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ ดิ่งลง 12.30 ดอลลาร์ หรือ 0.79% แตะที่ 1,538.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงเช้านี้
-- หุ้นเทสลาพุ่งขึ้นเหนือระดับ 500 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังนักวิเคราะห์ของบริษัทออพเพนไฮเมอร์ประกาศปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นเทสลาสู่ระดับ 612 ดอลลาร์/หุ้น จากระดับ 385 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ โดยเป็นการปรับขึ้นมากกว่า 20% หลังจากปิดตลาดที่ระดับ 478.15 ดอลลาร์ในวันศุกร์
ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายเทสลาของบริษัทออพเพนไฮเมอร์ถือเป็นระดับสูงสุดที่มีการคาดการณ์จากบริษัทในย่านวอลล์สตรีท ราคาหุ้นเทสลาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 4/2562 เพิ่มขึ้นเกินคาด และรัฐบาลจีนยืนยันว่าจะไม่ปรับลดเงินอุดหนุนโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้
-- การประท้วงที่ยืดเยื้อมากว่า 6 เดือนในฮ่องกง และการที่รัฐบาลฮ่องกงคาดว่า เศรษฐกิจหดตัวลง 1.3% ในปี 2562 นั้น กระตุ้นให้บริษัทบริหารทรัพย์สินเตรียมย้ายจากฮ่องกงไปเปิดสำนักงานในสิงคโปร์
บริษัทดัฟฟ์ แอนด์ เฟลป์ส ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินระดับโลก เปิดเผยว่า บริษัทบริหารสินทรัพย์ของฮ่องกงจำนวนมากขึ้นยื่นขออนุญาตเปิดสำนักงานในสิงคโปร์ ขณะที่บริษัทชุค ลิน แอนด์ บ็อค ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมายเปิดเผยว่า บริษัทฮ่องกงจำนวนมากขึ้นได้สอบถามและขอคำแนะนำด้านกฎหมายในการจัดตั้งบริษัทจัดการกองทุนในสิงคโปร์นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2562
-- กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนมีคำสั่งห้ามนายเคนเนท ร็อธ ผู้อำนวยการบริหารของฮิวแมน ไรท์ วอทช์ (HRW) เดินทางเข้าสู่ฮ่องกง โดยนายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลจีนและฮ่องกงดำเนินการเกี่ยวกับการผ่านเข้าออกชายแดนตามหลักกฎหมาย และจีนมีอำนาจตามอธิปไตยในการอนุญาตหรือปฏิเสธมิให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้าประเทศ
นายเกิงกล่าวว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่จากองค์กรเอกชน (NGO) บางรายได้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลจีนในฮ่องกง โดยมีการยุยงให้กระทำการรุนแรง และปลุกระดมสร้างความแตกแยกในฮ่องกง ซึ่ง NGO ดังกล่าวเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในฮ่องกง โดยองค์กรเหล่านี้สมควรถูกคว่ำบาตร และจะต้องชดใช้ต่อการกระทำที่เกิดขึ้น
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจากจีน หลังจากทางการไทยเปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นรายแรก ซึ่งเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน และนับเป็นรายแรกที่ตรวจพบนอกประเทศจีน โดย WHO ระบุว่าอาจจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว
ขณะนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาจำนวน 41 รายในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยรายหนึ่งที่เสียชีวิต
-- บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปประกาศยุติการสนับสนุนโปรแกรม Windows 7 นับตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. โดยบริษัทจะไม่ทำการอัพเดทซอฟท์แวร์ หรือออกซอฟท์แวร์เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ต่อคอมพิวเตอร์ที่ทำงานบนโปรแกรม Windows 7 อีกต่อไป
ไมโครซอฟท์ระบุว่า ผู้ที่ใช้งานบนเครื่องที่ทำงานบนโปรแกรม Windows 7 มีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีด้วยไวรัสและมัลแวร์ ทางบริษัทจึงแนะนำให้เจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปีให้อัพเกรดเป็น Windows 10 โดยเสียค่าใช้จ่าย 139 ดอลลาร์ต่อเครื่อง แต่หากเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวมีอายุมากกว่า 3 ปี ไมโครซอฟท์ก็แนะนำให้ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่ทำงานบนโปรแกรม Windows 10
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ย. ขณะที่จีนเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค.และยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนธ.ค. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนธ.ค. และอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค., อินโดนีเซียเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค., อังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค., อียูเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนม.ค.จากเฟดนิวยอร์ก และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (เช้าวันที่ 16 ม.ค.)