คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ออกแถลงการณ์ล่าสุดในวันนี้ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 25 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิต 24 รายในมณฑลหูเป่ย และ 1 รายในมณฑลเหอเป่ย
ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 830 ราย และผู้ที่ถูกสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสดังกล่าวอยู่ที่ 1,072 ราย
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern หรือ PHEIC)
"ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก การแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวถือเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศจีน แต่ยังไม่ถือว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก" นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมฉุกเฉินของ WHO ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเจนีวาเมื่อวานนี้
"อย่างไรก็ดี การประเมินของ WHO บ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดในจีนอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูงมาก ขณะที่ความเสี่ยงในระดับภูมิภาคและระดับโลก ก็สูงด้วยเช่นกัน" นายแพทย์กีบรีเยซุสกล่าว
-- กระทรวงการคลังของจีนได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 1 พันล้านหยวน (145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับมณฑลหูเป่ย เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว นับเป็นมาตรการล่าสุดของทางการจีน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้
-- กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้จัดตั้งทีมนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจำนวน 14 คน เพื่อระดมกำลังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
โครงการดังกล่าวจะสนับสนุนงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงการติดตามเชื้อไวรัส การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส วิธีการตรวจจับเชื้อ วิวัฒนาการจีโนม และการพัฒนาวัคซีน
-- จีนได้สั่งปิดพระราชวังต้องห้ามตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมเป็นต้นไป เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอื่นๆในจีนที่ประกาศใช้มาตรการเดียวกัน ซึ่งรวมถึงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน หอสมุดแห่งชาติจีน พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติจีน และคฤหาสน์กงหวังฝู่
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของพระราชวังต้องห้ามระบุว่า ทางการจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหากสามารถเปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ
-- รัฐบาลเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่า สวนสนุกเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ จะปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นมาตรการป้องกันไวรัสแพร่ระบาดในช่วงเทศกาลวันหยุดตรุษจีน 7 วันในปีนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 24 - 30 ม.ค. ซึ่งโดยปกติแล้ว สวนสนุกเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างหนาแน่น โดยในปีที่แล้ว ทางสวนสนุกได้ประกาศระงับการจำหน่ายตั๋วเนื่องจากมีผู้มาเที่ยวสวนสนุกมากเกินไป
-- รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมจัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ เพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายที่ 2 ในประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อเช้านี้ กรมควบคุมโรคของเกาหลีใต้ (KCDC) ได้ออกมาเปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นรายที่ 2 ในประเทศ ท่ามกลางความวิตกที่ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจะขยายวงกว้างออกไปทั่วประเทศจีน รวมถึงประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
-- กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสิงคโปร์เพิ่มอีก 2 ราย
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เพิ่งออกแถลงการณ์ยืนยันเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นรายแรกในประเทศ โดยเป็นชายชาวจีนวัย 66 ปี ซึ่งได้เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นของจีนมายังสิงคโปร์พร้อมกับครอบครัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสิงคโปร์เพิ่มเป็น 3 รายแล้ว
-- เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้ง (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศเปิดเผยว่า การบริโภคของจีนซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ขณะที่ชาวจีนหลายล้านคนเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน
นายฌอน โรช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิกของ S&P ประมาณการว่า หากการใช้จ่ายในด้านต่างๆ รวมถึงด้านการขนส่งและความบันเทิง ลดลง 10% ก็จะทำให้การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยรวมของจีน ลดลงราว 1.2%
นายโรชระบุว่า อุตสาหกรรมต่างๆ ที่พึ่งพาการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนจีน โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกิดขึ้นนอกบ้านนั้น อาจจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากที่สุดจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
การหลีกเลี่ยงลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และภาวะการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น อาจทำให้ผลกระทบรุนแรงขึ้น รวมไปถึงการลงทุน
-- นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐยังคงพิจารณาที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหภาพยุโรป (EU) และจากประเทศอื่นๆ หากประเทศเหล่านั้นยังดำเนินมาตรการกีดกันด้านการค้าต่อไป
นายรอสส์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศขณะเข้าร่วมการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์สเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐมีเหตุผลที่ดีพอในการเก็บภาษีตามที่ต้องการ หากท่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มองว่า เป็นวิธีการที่ดีกว่าการเจรจา
นายรอสส์ระบุด้วยว่า สหรัฐได้เจรจาอย่างสร้างสรรค์กับผู้ผลิตรถยนต์ของเยอรมนี, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และจนถึงขณะนี้ สหรัฐยังไม่คิดว่าจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการดังกล่าว แต่หากประเทศเหล่านั้นเลือกทำในสิ่งที่ไร้เหตุผล ด้วยการใช้มาตรการที่เป็นการกีดกัน หรือเลือกปฏิบัติทางการค้า เช่น การเรียกเก็บภาษีบริการด้านดิจิทัลนั้น สหรัฐก็คงจะต้องดำเนินการตอบโต้อย่างแน่นอน
-- รัฐบาลสหรัฐเพิ่มความเข้มงวดในการออกวีซ่าเพื่อป้องกัน "birth tourism" หรือผู้ที่ต้องการคลอดบุตรในสหรัฐเพื่อให้บุตรได้สัญชาติอเมริกัน โดยเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐจะปฏิเสธการให้วีซ่า non-immigrant ประเภท B แก่สตรีที่มีแนวโน้มต้องการคลอดบุตรในสหรัฐ
ข้อมูลในบันทึกราชการ (Federal Register) ของสหรัฐระบุว่า "กฎระเบียบใหม่นี้ระบุว่า ผู้ที่เดินทางมายังสหรัฐโดยมีจุดประสงค์ที่จะคลอดบุตรเพื่อให้บุตรได้รับสัญชาติอเมริกันนั้น ถือเป็นการทำผิดกฎการพิจารณาให้วีซ่าประเภท B ด้วยเหตุนี้ กงสุลจะปฏิเสธการให้วีซ่าประเภท B กับชาวต่างชาติที่มีวัตถุประสงค์ข้างต้น กฎระเบียบนี้กำหนดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาด้านความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ รวมถึงอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม birth tourism"
ทั้งนี้ กฎหมายวีซ่าใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้เป็นวันแรก
-- สื่อต่างประเทศรายงานว่า การพิจารณาคดีเฟสแรกเกี่ยวกับกรณีที่ว่า นางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน สมควรถูกส่งตัวไปพิจารณาคดีในสหรัฐในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่นั้น ได้เสร็จสิ้นลงแล้วในวันพฤหัสบดีหลังจากที่ดำเนินมา 4 วัน โดยคณะทนายความของนางเมิ่งได้แก้ต่างข้อกล่าวหาของอัยการที่ระบุว่า การกระทำของนางเมิ่งตามข้อกล่าวนั้น เป็นการก่ออาชญากรรมในแคนาดา
คณะทนายความของนางเมิ่งได้คัดค้านข้อกล่าวหาของอัยการแคนาดาที่ระบุว่า การกระทำตามข้อกล่าวหาของนางเมิ่งไม่ใช่การก่ออาชญากรรมในแคนาดา เนื่องจากข้อหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคารนั้นขึ้นอยู่กับการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่าน ในขณะที่แคนาดาไม่ได้มีมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อกระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้เริ่มต้นขึ้น
ด้านผู้พิพากษาในคดีระบุว่า จะชะลอการตัดสินคดีดังกล่าวไว้ก่อน ขณะที่คณะทนายความคาดว่าจะมีการประกาศคำตัดสินที่เป็นลายลักษณ์อักษาก่อนวันที่ 27 เม.ย.ซึ่งนางเมิ่งจะขอหลักฐานที่เกี่ยวกับการจับกุมตัวเธอ โดยนางเมิ่งมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
-- นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ลงนามในข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แล้ว อย่างไรก็ดี ยังต้องรอให้รัฐสภายุโรป (EU) เปิดโหวตรับรองข้อตกลงดังกล่าวด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 29 ม.ค. นี้
ประธานคณะมนตรียุโรป เปิดเผยถึงการลงนามข้อตกลงครั้งนี้ว่า เมื่ออังกฤษถอนตัวออกไปแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะยังคงมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน
-- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของฝรั่งเศส อยู่ที่ระดับ 51.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 52.0 ในเดือนธ.ค.
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 51.0 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 50.4 ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ระดับ 51.7 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ลดลงจากระดับ 52.4 เมื่อเดือนธ.ค.
-- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของเยอรมนี อยู่ที่ระดับ 51.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 50.2 ในเดือนธ.ค.
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 45.2 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 43.7 ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 54.2 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 52.9 ในเดือนธ.ค.
-- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 50.9 ในเดือนม.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนธ.ค.
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ระดับ 47.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน จากระดับ 46.3 ในเดือนธ.ค. โดยดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ระดับ 52.2 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 52.8 ในเดือนธ.ค.
-- ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของสหราชอาณาจักร ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.4 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน จากระดับ 49.3 ในเดือนธ.ค.
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน จากระดับ 47.5 ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 52.9 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน จากระดับ 50.0 ในเดือนธ.ค.