บริษัท ไนกี้ ผู้ผลิตชุดกีฬาและอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ธุรกิจของไนกี้ในจีนจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทจำเป็นต้องปิดร้านในจีนราวครึ่งหนึ่ง และลดจำนวนชั่วโมงการเปิดให้บริการในหลายสาขา เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ส่งผลให้มีลูกค้าเข้าร้านน้อยลง
อย่างไรก็ดี นายจอห์น โดนาโฮ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไนกี้ เปิดเผยว่า ไนกี้ยังคงมีความตั้งใจที่จะทำธุรกิจในจีนต่อไปในระยะยาว
ทั้งนี้ ไนกี้เป็นบริษัทสินค้าผู้บริโภครายแรกที่มองว่าการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจของบริษัท ขณะที่องค์กรรายอื่น ๆ ไม่ได้ออกมาประกาศชัดเจน เนื่องจากยังเร็วเกินไปในการประเมินผลกระทบ
ก่อนหน้านี้ สตาร์บัคส์ ประกาศปิดสาขากว่าครึ่งในจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่แอปเปิ้ลได้รับผลกระทบ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานเริ่มสะดุด
นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนายังส่งผลกระทบต่อธุรกิจอื่น ๆ ด้วย โดยสายการบินหลายแห่งได้ระงับเที่ยวบิน กลุ่มร้านอาหาร เช่น แมคโดนัลด์ และ เคเอฟซี ได้สั่งปิดสาขาหลายแห่งในจีน ขณะที่บริษัทชั้นนำอีกหลายแห่ง เช่น ธนาคารเครดิต สวิส กรุ๊ป และมอร์แกน สแตนลีย์ ได้สั่งให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศจีนล่าสุดนั้น คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ ณ วันอังคารที่ 4 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นอีก 65 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 490 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3,887 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 24,324 ราย