เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก แนะนำว่า ประเทศที่มีรายได้ต่ำควรเฝ้าระวังเกี่ยวกับปัญหาหนี้สิน, ร่วมงานกับนักลงทุนเพื่อปรับปรุงความโปร่งใสเกี่ยวกับหนี้สิน และสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมการลงทุนและการควบคุมความเปราะบางด้านหนี้สิน
นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการ IMF เปิดเผยว่า ต้นทุนดอกเบี้ยที่เกิดจากหนี้ในระดับสูงอาจนำพาทรัพยากรที่มีค่าไปจากประชาชนในประเทศที่มีรายได้ต่ำ
นางจอร์จีวาเปิดเผยว่า เหตุที่เธอมีความวิตกอย่างมากเกี่ยวกับหนี้สินในประเทศที่มีรายได้ต่ำนั้น ก็เพราะหากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม อัตราดอกเบี้ยที่มักอยู่ในระดับสูง จะนำพาทรัพยากรที่มีค่าไปจากประเทศทั้งทางด้านการศึกษาและสุขภาพ และการลงทุนด้านสาธารณูปโภค
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานที่ IMF เปิดเผยเมื่อวานนี้ระบุว่า การขยายตัวของระดับหนี้ในประเทศที่มีรายได้ต่ำได้ชะลอลงนับตั้งแต่ปี 2560 ขณะที่ประเทศรายได้ต่ำที่ส่งออกน้ำมันมีการขยายตัวของระดับหนี้เพิ่มขึ้น แต่อัตราหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในประเทศรายได้ต่ำที่ไม่ได้ส่งออกน้ำมันนั้น ยังคงเพิ่มขึ้น
รายงานดังกล่าวเตือนว่า ภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะจำกัดขอบเขตการดำเนินนโยบายการเงินในประเทศเหล่านี้
นอกจากนี้ IMF และธนาคารโลกยังวิตกว่า การขาดความโปร่งใสอาจทำให้ความเสี่ยงด้านหนี้สินเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นในโลกที่ไม่มีความแน่นอนมากขึ้น
นายเดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลกโพสต์ในทวิตเตอร์ว่า หนี้ที่ไม่มีความโปร่งใสจะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม และจะมีเงินช่วยเหลือไม่เพียงพอสำหรับความต้องการเร่งด่วน
"เราอยู่ในโลกที่ได้รับผลกระทบอย่างง่ายดาย และเมื่อพิจารณาจากการพึ่งพากันและกันนั้น ทุกๆ คนต่างก็ให้ความสนใจกับความโปร่งใส รวมถึงประเด็นด้านหนี้สิน" นายมัลพาสกล่าว