บริษัทโบอิ้ง โค เปิดเผยในรายงานแนวโน้มตลาดการบินที่งาน "Singapore Airshow" ในวันนี้ว่า สายการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำเป็นต้องใช้เครื่องบินใหม่จำนวน 4,500 ลำในช่วง 20 ปีข้างหน้า เพื่อตอบสนองความต้องการของชนชั้นกลางที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้
ทั้งนี้ โบอิ้งคาดว่า มูลค่ายอดสั่งซื้อเครื่องบินล็อตใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะอยู่ที่ 7.10 แสนล้านดอลลาร์
แรนดี้ ทินเซธ รองประธานฝ่ายการตลาดของโบอิ้ง กล่าวว่า ยอดสั่งซื้อที่ขยายตัวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้แรงหนุนจากสายการบินของไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ที่ลิสต์ท็อปเท็นของประเทศที่มีการเพิ่มจำนวนที่นั่งของสายการบินมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553
การแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า โบอิ้งยังคงมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องบิน แม้ทางบริษัทเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 Max ถูกสั่งห้ามบินทั่วโลก ภายหลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2562 ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 157 รายบนเครื่องเสียชีวิตทั้งลำ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงห้าเดือนหลังจากเครื่องบินรุ่นเดียวกันของสายการบินไลอ้อนแอร์ ตกเมื่อเดือนต.ค. 2561 ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 189 รายเสียชีวิตทั้งหมด