การเจรจาต่อรองเรื่องค่าแรงประจำปีในฤดูใบไม้ผลิของสหภาพแรงงานญี่ปุ่นได้เริ่มขึ้นในวันนี้ โดยสหภาพแรงงานต่างๆ จากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้บริหาร ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อธุรกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 (COVID-19)
ทั้งนี้ คาดว่าการเจรจาต่อรองจะเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจได้ถูกบดบัง ไม่เพียงแต่จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานเท่านั้น แต่ยังได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐ-จีน และการปรับขึ้นภาษีการบริโภคในญี่ปุ่นเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาด้วย
การเจรจาด้านค่าแรงของอุตสาหกรรมรถยนต์ได้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีอิทธิพลอย่างมากต่อภาคธุรกิจอื่นๆ โดยคาดว่าบริษัทญี่ปุ่นขนาดใหญ่ส่วนใหญ่จะตอบข้อเรียกร้องของสหภาพภายในวันที่ 11 มี.ค.
นอกเหนือจากการเรียกร้องขอขึ้นเงินเดือนพื้นฐานสำหรับพนักงานทั้งหมดนั้น สหภาพแรงงานของบริษัทโตโยตา มอเตอร์ คอร์ปซึ่งถือเป็นผู้กำหนดแนวโน้มในอุตสาหกรรมนั้น ยังได้เสนอให้บริษัทให้ความสำคัญมากขึ้นกับผลการดำเนินงานของพนักงาน
สหภาพแรงงานโตโยต้าเรียกร้องให้บริษัทปรับเพิ่มค่าแรงโดยให้ความสำคัญมากขึ้นกับระบบการประเมินผลงาน 5 ระดับ โดยพนักงานที่มีคะแนนผลการดำเนินงานสูงกว่า ก็จะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นมากกว่าพนักงานที่มีคะแนนต่ำกว่า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า โตโยต้าซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะที่ยากลำบาก ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์เปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งทำให้บริษัทต้องเร่งปรับปรุงขีดความสามารถด้านการแข่งขันด้วยการจูงใจพนักงานวัยหนุ่มสาวด้วยระบบการจ่ายเงินเดือนโดยอิงกับผลการดำเนินงาน