"บัฟเฟตต์"ชี้สกุลเงินคริปโตไม่มีมูลค่าในตัวเอง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 24, 2020 23:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน กล่าวในวันนี้ว่า สกุลเงินคริปโตเป็นสิ่งที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง

"สกุลเงินคริปโตไม่สามารถผลิตอะไรได้ และไม่มีการส่งเช็คให้นักลงทุน แต่มูลค่าของสกุลเงินมาจากความเชื่อที่ว่าบางคนจะให้มูลค่าต่อมันมากขึ้นในอนาคต ในแง่ของมูลค่า คุณก็รู้ว่ามันมีค่าเท่ากับศูนย์" นายบัฟเฟตต์กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNBC

นายวอร์เรนยังกล่าวว่า การทรุดตัวของตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่จะเข้าช้อนซื้อหุ้นในราคาต่ำ

"นี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเรา เราเป็นผู้ซื้อหุ้นสุทธิในระยะยาว คนส่วนใหญ่มักชอบเก็บออมเงิน แต่พวกเขาควรต้องการให้ตลาดหุ้นร่วงลง และควรเข้าซื้อหุ้นในราคาต่ำ" นายบัฟเฟตต์กล่าว

"ผมเป็นผู้ซื้อหุ้นสุทธิทุกปี นับตั้งแต่ผมอายุ 11 ขวบ" เขากล่าว

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 1,000 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อการที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นนอกประเทศจีน

นายบัฟเฟตต์กล่าวว่า ข่าวร้ายในตลาดหุ้นช่วงนี้ ซึ่งรวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ได้กระทบมุมมองของเขาที่ว่า ตลาดหุ้นยังคงเป็นแหล่งลงทุนที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาว

นายบัฟเฟตต์กล่าวว่า เขาไม่มีความชำนาญเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แต่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะ 10-20 ปี และให้ความสนใจต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะพบว่าการลงทุนในหุ้นถือเป็นการลงทุนที่ดี

"คุณไม่สามารถทำนายตลาดหุ้นได้โดยการอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน ถ้าคุณดูสถานการณ์ในปัจจุบัน คุณพบว่าจะได้ผลตอบแทนจากหุ้นดีกว่าพันธบัตร" นายบัฟเฟตต์กล่าว

นายบัฟเฟตต์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้ว่าจะอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนก่อนหน้านี้ และยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้กระทบธุรกิจของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ อิงค์ของเขา

นอกจากนี้ นายบัฟเฟตต์ยังกล่าวว่า ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ อิงค์ของเขา คือการลงทุนในบริษัทแอปเปิล อิงค์ รองจากธุรกิจประกัน และทางรถไฟ

"นี่เป็นธุรกิจที่ผมรู้จักที่ดีที่สุดในโลก และเป็นธุรกิจที่เรามีความเชื่อมั่น รองจากประกันและทางรถไฟ ผมไม่คิดว่าแอปเปิลเป็นแค่หุ้น แต่เป็นธุรกิจใหญ่อันดับ 3 ของเรา" นายบัฟเฟตต์กล่าว

ทั้งนี้ เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ถือหุ้น 5.7% ในแอปเปิล คิดเป็นหุ้นมากกว่า 245 ล้านหุ้น มูลค่าราว 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์

ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นราว 80%

นายบัฟเฟตต์กล่าวว่า เขาน่าจะซื้อหุ้นแอปเปิลเร็วกว่านี้ หลังจากที่ซื้อหุ้นล็อตแรกจำนวน 10 ล้านหุ้นในเดือนพ.ค.2559

ขณะเดียวกัน นายบัฟเฟตต์กล่าวว่า เขาจะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้นายไมเคิล บลูมเบิร์ก อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต

"ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องดีที่จะประกาศว่ามีมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่งที่สนับสนุนนายบลูมเบิร์ก แต่ผมไม่มีปัญหาที่จะลงคะแนนให้เขา" นายบัฟเฟตต์กล่าว

ทั้งนี้ ผลสำรวจพบว่า นายบลูมเบิร์กมีคะแนนนำเป็นอันดับ 2 รองจากวุฒิสมาชิกเบอร์นี่ แซนเดอร์ส ซึ่งชนะการเลือกตั้งไพรมารีที่รัฐไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์

นอกจากนี้ นายบลูมเบิร์กมีโอกาสสูงที่จะแซงหน้านายแซนเดอร์สในศึก Super Tuesday ที่จะมีการเลือกตั้งไพรมารีพร้อมกัน 14 รัฐในวันอังคารที่ 3 มี.ค. เพื่อเลือกตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.

นายบลูมเบิร์กกล่าวว่า เขาจะขายสำนักข่าวบลูมเบิร์ก หากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี

นายบลูมเบิร์กก่อตั้งสำนักข่าวบลูมเบิร์กในปี 2524 โดยเขาถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัท ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสำนักข่าวบลูมเบิร์กสร้างรายได้ให้แก่นายบลูมเบิร์กมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว

ทั้งนี้ นายบลูมเบิร์กนับเป็นตัวเก็งคนหนึ่งที่อาจได้รับเลือกจากพรรคเดโมแครตให้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกับคู่แข่งของเขาคือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พ.ย.

ผลการสำรวจพบว่านายบลูมเบิร์กได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ที่เขาประกาศเปิดตัวเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งผู้แทนของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ