นายพอล ชาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง (HKSAR) คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจฮ่องกงจะอยู่ในกรอบ -1.5% ถึง 0.5% ในปีนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นขณะนายพอล ชาน แถลงงบประมาณประจำปีในวันนี้ โดยกล่าวว่า "เศรษฐกิจฮ่องกงเผชิญกับความท้าทายมากมายในปีนี้ และแนวโน้มในระยะใกล้ยังไม่ค่อยสดใส"
รมว.คลังฮ่องกง เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในฮ่องกง และกล่าวว่า "ภาคส่วนที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวและการบริโภค ซึ่งเดิมได้รับผลกระทบจากการประท้วงอยู่ก่อนหน้าแล้ว กำลังเดือดร้อนจากสถานการณ์ที่รุนแรงยิ่งกว่า"
รมว.คลังฮ่องกง ระบุว่า ผลกระทบที่การแพร่ระบาดครั้งนี้มีต่อเศรษฐกิจอาจร้ายแรงกว่าการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) เมื่อปี 2546 และเน้นย้ำว่า ตลาดแรงงานกำลังเผชิญกับแรงกดดันครั้งสำคัญ
ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว รมว.คลังฮ่องกงได้ให้คำมั่นในการใช้มาตรการรับมือกับปัจจัยที่ผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นายพอล ชาน กล่าวว่า "แม้งบประมาณปีหน้าคาดว่าจะขาดดุลเป็นประวัติการณ์ แต่ผมเชื่อว่า งบประมาณดังกล่าวเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้ชุมชุนและธุรกิจฮ่องกงก้าวข้ามปัญหานี้ไปได้"
อย่างไรก็ดี นายพอล ชาน ชี้ว่าเศรษฐกิจฮ่องกงยังคงมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการแข่งขันที่ดี โดย "เศรษฐกิจฮ่องกงน่าจะฟื้นตัวเมื่อการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง"