นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า เขาคาดหวังว่าจะสามารถนำเงินทุนสำรองจำนวน 2.7 แสนล้านเยน (2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของปีงบประมาณ 2562 มาใช้ในมาตรการฉุกเฉินรอบใหม่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนที่จะร่างมาตรการฉุกเฉินภายในวันที่ 10 มี.ค.นี้ เพื่อชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบรรดาผู้ปกครอง หลังจากที่นายอาเบะได้ตัดสินใจสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ รวมทั้งยกระดับการบริการทางการแพทย์ และให้ความช่วยเหลือบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผลกระทบดังกล่าวมีมูลค่ามากเพียงใด
ทั้งนี้ นายอาเบะกล่าวต่อรัฐสภาว่า "เราจะตัดสินใจว่าจะใช้เงินทั้งหมดจากเงินทุนสำรองดังกล่าวหรือไม่ ก็ต่อเมื่อเราเสร็จสิ้นการสรุปรายละเอียดของมาตรการฉุกเฉินแล้วในวันที่ 10 มี.ค. โดยเราเองก็อยากจะใช้เงินจากทุนสำรองดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"
ในขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความล่าช้าในการตอบสนองการแพร่ระบาดนั้น นายอาเบะได้สร้างความประหลาดใจเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ด้วยการสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในญี่ปุ่นตั้งแต่สัปดาห์นี้ไปจนถึงช่วงปิดเทอมในฤดูใบไม้ผลิซึ่งจะสิ้นสุดในช่วงต้นเดือนเม.ย.
นายอาเบะอธิบายว่า การปิดโรงเรียนถือเป็นความจำเป็นในการป้องกันการแพร่กระจายในกลุ่ม แม้ว่าผู้ปกครอง, นักเรียน, ครู และเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่นจำนวนมาก ต่างก็ประหลาดใจกับการตัดสินใจดังกล่าวก็ตาม
นายอาเบะยืนยันว่า ผู้ปกครองที่มีความจำเป็นต้องลางานเพื่อใช้เวลาในการดูแลลูกๆ จนกระทั่งโรงเรียนเริ่มปีการศึกษาใหม่นั้น จะได้รับความช่วยเหลือด้านการเงิน