ผลการสำรวจเผยให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อบริษัทญี่ปุ่นมากกว่าครึ่งหนึ่งที่เปิดดำเนินธุรกิจอยู่ในอินโดนีเซีย
ผลการสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นร่วมกันโดย Jakarta Japan Club (JJC) และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 5 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีบริษัทสมาชิก 42 บริษัทจาก 44 บริษัทร่วมตอบแบบสอบถาม
ผลการสำรวจพบว่า 7% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ไวรัสโควิด-19 จะสร้างผลกระทบอย่างมากต่อรายได้ของบริษัท ขณะที่ 46% ระบุว่า ส่งผลกระทบไม่รุนแรง
นอกจากนี้ บริษัทจำนวน 57% ที่ร่วมตอบแบบสำรวจ ระบุว่า อุปสรรคทางธุรกิจของพวกเขาคือความยากลำบากในการจัดหาชิ้นส่วน วัสดุ และผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ ขณะที่ 51% ระบุว่า ยอดขายลดลงเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
ในบรรดาบริษัทที่กังวลเกี่ยวกับปัญหาการจัดซื้อนั้น 29% ระบุว่าเริ่มประสบความล่าช้าและปัญหาดังกล่าวแล้วในขณะนี้ ขณะที่ 52% คิดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 3 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาเพิ่มเติม 43% ระบุว่ากำลังพิจารณาจัดซื้อวัตถุดิบจากประเทศอื่นๆ ขณะที่ 43% กล่าวว่าจะยังคงพึ่งพาซัพพลายเออร์จากจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายเคอิชิ ซูซูกิ ประธานสำนักงาน JETRO ประจำกรุงจาการ์ตา กล่าวว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องติดตามการเคลื่อนไหวของรัฐบาลอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด เช่น การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบการเข้าเมือง โดยปัจจุบัน อินโดนีเซียประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีน อิหร่าน อิตาลี และเกาหลีใต้