นางกิตา โกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ และจำเป็นต้องมีนโนบายที่มีเป้าหมายสำคัญเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19
นางโกปินาธระบุในบล็อกว่า "วิกฤตด้านสุขภาพจะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก รวมทั้งสะท้อนถึงผลกระทบด้านอุปทาน และอุปสงค์ที่แตกต่างจากวิกฤตที่ผ่านมา"
"ภาวะชะงักงันของธุรกิจทำให้การผลิตลดลง และส่งผลกระทบด้านอุปทาน ขณะที่ความลังเลในการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจนั้น ทำให้อุปสงค์ลดลง"
นางโกปินาธกล่าวว่า ควรมีการนำนโยบายที่มีเป้าหมายสำคัญมาใช้, ติดตามความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการเงินระหว่างแรงงานและภาคธุรกิจ, ผู้ปล่อยกู้และผู้กู้ ตลอดจนซัพพลายเออร์และผู้ใช้ขั้นปลาย เพื่อพิจารณาว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นหรือไม่ ทันทีที่การแพร่ระบาดของโควิดลดน้อยลง
นางโกปินาธกล่าวว่า เป้าหมายของการดำเนินนโยบายก็คือ เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตชั่วคราวส่งผลกระทบอย่างถาวรกับประชาชนและบริษัทต่างๆ ในรูปแบบของการตกงานและการล้มละลาย"
นางโกปินาธกล่าวว่า ประเทศต่างๆ ที่พึ่งพาเงินทุนจากต่างประเทศ อาจเผชิญความเสี่ยงจากการร่วงลงอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมัน และภาวะตลาดที่ผันผวน โดยระบุว่าราคาน้ำมันได้ดิ่งลงอย่างรุนแรงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และร่วงลงราว 30% จากระดับตั้งแต่ต้นปี
นางโกปินาธกล่าวว่า ธนาคารกลางต่างๆ ควรพร้อมที่จะจัดหาสภาพคล่องปริมาณมากให้กับธนาคาร และบริษัทด้านการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งอาจมีการเตรียมพร้อมน้อยกว่าในการรับมือกับการทรุดตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลควรให้การค้ำประกันสินเชื่อที่มีเป้าหมายกับบรรดาบริษัทที่ต้องการสภาพคล่องในระยะใกล้