กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยหลังจากการประชุมทางไกลร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าของกลุ่มประเทศ G7 เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กลุ่ม G7 ให้คำมั่นว่าจะยังคงร่วมมือกันเพื่อรับมือกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
"กลุ่ม G7 ยังคงมีการติดต่อกันตามปกติ และต่างก็ให้คำมั่นว่าจะยังคงร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขของโลก และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19" กระทรวงการคลังสหรัฐระบุในแถลงการณ์
ถ้อยแถลงดังกล่าวของกระทรวงการคลังสหรัฐมีขึ้นหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง 2,352.60 จุด หรือ 9.99% เมื่อคืนนี้ ทำสถิติดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่ตลาดวอลล์สตรีทเผชิญวิกฤต "แบล็คมันเดย์" เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2530 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปเข้าสู่สหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมทางไกลครั้งนี้เป็นการพูดคุยกันระหว่างนายเบรนท์ แมคอินทอช รมช.คลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของสหรัฐ และรมช.คลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของแคนาดา สหภาพยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และอังกฤษ โดยสหรัฐเป็นประธานในการจัดประชุม G7 ในปีนี้