บิตคอยน์ดิ่งลงต่ำกว่า 5,000 ดอลลาร์ในวันนี้ แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาตรการครั้งใหญ่ในการประชุมฉุกเฉินวานนี้
ณ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ร่วงลง 5.6% สู่ระดับ 4,968.26 ดอลลาร์ หลังจากพุ่งขึ้น 14% ในช่วงแรก ขานรับมาตรการของเฟด
ทั้งนี้ บิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ยังคงปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะนี้ มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลได้หายไปกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
บิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่า 5,000 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่ทะยานขึ้นแตะ 10,000 ดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว
นักวิเคราะห์มองว่าบิตคอยน์จะยังคงปรับตัวผันผวนในระยะสั้น แต่จะถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนในการเข้าซื้อในราคาถูก
"นี่ไม่ใช่ตลาดสำหรับคนเป็นโรคหัวใจ ขณะที่มีการเทขายอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ทำให้มีการปรับฐานในระยะสั้น" นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าว และเสริมว่า เครื่องมือเดียวที่จะสามารถนำมาใช้ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ คือการมองหาสินทรัพย์และสกุลเงินที่น่าสนใจเพื่อให้มีการลงทุนที่หลากหลาย และกระจายความเสี่ยง
ทั้งนี้ เฟดสร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.00% จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ เฟดยังได้ประกาศซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์
การใช้มาตรการ QE ของเฟดเมื่อวานนี้ ถือเป็นการทำ QE เป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่สหรัฐเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และภาวะถดถอยในปี 2550-2552 โดยเฟดได้ถือครองสินทรัพย์จำนวนมากในช่วงที่ดำเนินการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE เป็นจำนวน 3 รอบก่อนหน้านี้เพื่อกระตุ้นการลงทุน และการจ้างงานในช่วงเวลาดังกล่าว
การซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ครั้งล่าสุดของเฟด ส่งผลให้เฟดถือครองสินทรัพย์ในงบดุลสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์