นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวที่ทำเนียบขาวในวันนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐจะมอบเงินจากกองทุนฉุกเฉินให้แก่ชาวอเมริกันอย่างรวดเร็ว เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
นายมนูชินกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะจ่ายเช็คให้แก่ชาวอเมริกันในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่ภาคธุรกิจสามารถเลื่อนการชำระภาษีเป็นจำนวนเงินมากถึง 10 ล้านดอลลาร์ ส่วนบุคคลธรรมดาสามารถเลื่อนการชำระภาษีเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านดอลลาร์ โดยปธน.ทรัมป์ได้อนุมัติให้มีการเลื่อนการชำระภาษีให้แก่กรมสรรพากรสหรัฐคิดเป็นวงเงินรวม 3 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 8.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์แก่อุตสาหกรรมการบิน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า รัฐบาลจะดำเนินการครั้งใหญ่ โดยจะไม่ให้ธุรกิจสายการบินประสบภาวะล้มละลาย และจะไม่ให้ชาวอเมริกันตกงาน
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐจะให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ เช่น อุตสาหกรรมการบินและอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ถ้อยแถลงดังกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้นหลังจาก Airlines for America ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ตัวแทนสายการบินโดยสารของสหรัฐและสายการบินคาร์โกจำนวน 10 สายการบิน เรียกร้องให้รัฐบาลอนุมัติความช่วยเหลือวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์แก่อุตสาหกรรมการบินของสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หากรัฐบาลอนุมัติข้อเสนอดังกล่าว ก็จะถือเป็นมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบินเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งมีการโจมตีสหรัฐในวันที่ 11 ก.ย. 2544
ทางด้าน Centre for Aviation (CAPA) ระบุเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบทำให้สายการบินส่วนใหญ่ของโลกประสบภาวะล้มละลายภายในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ ภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
"ไวรัสโควิด-19 และมาตรการห้ามการเดินทางของรัฐบาลต่างๆได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้สายการบินจำนวนมากตกอยู่ในภาวะล้มละลายทางเทคนิคแล้ว หรือได้ผิดนัดชำระหนี้ โดยเงินสดสำรองกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฝูงบินถูกจอดทิ้งไว้ และมีการเปิดเที่ยวบินน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด" CAPA ระบุ
CAPA ยังระบุว่า ภาครัฐและอุตสาหกรรมการบินจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ดังกล่าว