ดีบีอาร์เอส มอร์นิ่งสตาร์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของแคนาดาเปิดเผยว่า นักลงทุนที่ถือครองพันธบัตรเพื่อการระดมทุนรับมือโรคระบาด (Pandemic Bond) สองรุ่นของธนาคารโลก จะประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดทั่วโลก
ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและพัฒนา (IBRD) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของธนาคารโลก ได้ออกพันธบัตร Pandemic Bond ในปี 2560 เพื่อระดมทุนสำหรับการให้ความช่วยเหลือประเทศต่างๆ ในการควบคุมโรคระบาด โดยทางองค์การอนามัยโลก (WHO) เพิ่งประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดทั่วโลกเมื่อต้นเดือนนี้
Pandemic Bond กำหนดเงื่อนไขการตัดเงินต้นของผู้ถือโดยขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อของโรคระบาดในแต่ละประเทศพร้อมกรอบเวลาที่กำหนด ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยของ Pandemic Bond จึงสูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไปที่มีอายุเท่ากันเพื่อชดเชยกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นที่ผู้ถือพันธบัตรอาจต้องจะสูญเงินบางส่วนหรือทั้งหมดหากเกิดโรคระบาดขึ้น ซึ่งก็รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้
ราคาของพันธบัตรดังกล่าวได้ดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนเทขายเพราะจำนวนการติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของการแพร่ระบาดกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง และพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ดีบีอาร์เอส มอร์นิ่งสตาร์ระบุว่า นักลงทุนที่ถือพันธบัตรสองรุ่นดังกล่าวอาจจะสูญเงินต้นทั้งหมดในไม่ช้านี้ โดยราคาพันธบัตรดังกล่าวจะร่วงลงมากกว่า 80%