ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1,338.46 จุด หรือ 6.30% เมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างหนักหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดตัวลง อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามบังคับใช้ในเร็วๆนี้
-- วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 90 ต่อ 8 เสียง อนุมัติร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า "Families First Coronavirus Response Act" จะครอบคลุมถึงการให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 กับประชาชนสหรัฐโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และการจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างที่ลาป่วยจากการติดเชื้อ
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งคาดว่ามีวงเงินสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์นั้น ยังรวมถึงโครงการช่วยเหลือประชาชนที่อาจตกงานจากผลกระทบของโควิด-19 ในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้าด้วย
-- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 300 จุดในช่วงเช้านี้ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศโครงการใหม่ในการซื้อหลักทรัพย์ของภาคเอกชนและภาครัฐวงเงินรวม 7.50 แสนล้านยูโร (8.19 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 07.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้น 328 จุด หรือ 1.65% แตะที่ระดับ 20,181 จุด
-- ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ในยุโรปพุ่งแซงหน้าจีน โดยในปัจจุบัน ยอดผู้ติดเชื้อในยุโรปพุ่งขึ้นเกิน 85,000 ราย ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตใกล้แตะระดับ 4,000 ราย เทียบกับจีนซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 3,200 ราย
สำหรับอิตาลีนั้น ข้อมูล ณ วันพุธที่ 18 มี.ค. ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 2,978 ราย โดยมียอดผู้เสียชีวิตในวันดังกล่าวเพียงวันเดียวสูงถึง 475 ราย
-- ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรับอย่างฟอร์ด ไคร์สเลอร์ และเจเนอรัล มอเตอร์ จะปิดโรงงานในสหรัฐชั่วคราวเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายมาร์ก ทรูบี รองประธานฝ่ายสื่อสารของฟอร์ดกล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า ฟอร์ดจะระงับการผลิตชั่วคราวตั้งแต่ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศโครงการใหม่ในการซื้อหลักทรัพย์ของภาคเอกชนและภาครัฐวงเงินรวม 7.50 แสนล้านยูโร (8.19 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ECB ประกาศโครงการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินดังกล่าวเพื่อพยายามคลายความวิตกในตลาด และลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
สำหรับสินทรัพย์ที่ ECB จะซื้อนั้นได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล, หุ้นกู้ภาคเอกชน รวมถึงตราสารเพื่อการพาณิชย์ โดยจะซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้
-- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ประกาศปิดห้องค้าหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว และเปลี่ยนไปเป็นการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
แถลงการณ์ของ NYSE ระบุว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ทางอิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ 23 มี.ค.เมื่อตลาดเปิดทำการซื้อขาย พร้อมกับชี้แจงว่า การตัดสินใจปิดห้องค้าหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวนั้น เป็นไปตามมาตรการป้องกันล่วงหน้า เพื่อปกป้องสุขภาพและชีวิตของบรรดาพนักงานในห้องค้าหลักทรัพย์ ในช่วงเวลาที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐอยู่ที่ 8,525 รายในขณะนี้ โดยผู้ป่วย 70 รายได้ถูกส่งตัวกลับประเทศของตนเองแล้ว ขณะที่อีก 8,455 รายเป็นพลเมืองจากทั้ง 50 รัฐทั่วประเทศ ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐขณะนี้อยู่ที่ 145 ราย
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. ออสเตรเลียจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.พ. ด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2562 และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.จาก Conference Board
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ขณะที่ธนาคารกลางจีนจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ประจำเดือนมี.ค. ส่วนเยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.