ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดได้ร่วมมือกับธนาคารกลางหลายแห่งในการเพิ่มสภาพคล่องของดอลลาร์ทั่วโลกผ่านทางการทำข้อตกลงสว็อประหว่างธนาคารกลางดังกล่าว
ทั้งนี้ เฟดได้ทำข้อตกลงสว็อปกับธนาคารกลางยุโรป รวมถึงธนาคารกลางจากอังกฤษ แคนาดา ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อป้องกันภาวะตึงตัวของดอลลาร์ หลังจากที่นักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
"เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของข้อตกลงสว็อปในการเพิ่มสภาพคล่องดอลลาร์ ธนาคารกลางเหล่านี้จึงได้เห็นพ้องกันในการเพิ่มความถี่ในการทำธุรกรรมสำหรับตราสารที่มีอายุ 7 วันจากรายสัปดาห์เป็นรายวัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. จนถึงปลายเดือนเม.ย." แถลงการณ์เฟดระบุ
ส่วนเมื่อวานนี้ เฟดประกาศข้อตกลงสว็อปกับธนาคารกลางของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บราซิล เดนมาร์ก เม็กซิโก นอร์เวย์ สวีเดน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ โดยข้อตกลงสว็อปดังกล่าวจะมีอายุ 6 เดือน
ข้อตกลงสว็อปที่เฟดทำไว้กับธนาคารกลางทุกแห่งจะมีวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ยกเว้นข้อตกลงของธนาคารกลางเดนมาร์ก นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ จะมีวงเงินแห่งละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน เฟดแถลงในวันนี้ว่า เฟดจะขยายการซื้อหลักทรัพย์ในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ให้รวมถึงพันธบัตรเทศบาลระยะสั้น
ก่อนหน้านี้ เฟดดำเนินโครงการ QE ด้วยการซื้อเพียงพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในความพยายามที่จะเสริมสภาพคล่องในตลาด และสร้างเสถียรภาพแก่ตลาดสินเชื่อ
อย่างไรก็ดี ภาวะปั่นป่วนในตลาดตราสารหนี้ของรัฐบาลประจำมลรัฐ และรัฐบาลท้องถิ่น ได้ทำให้เฟดต้องดำเนินการเพิ่มเติมในวันนี้เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยตลาดพันธบัตรเทศบาลได้ทรุดตัวลง ขณะที่นักลงทุนไม่ต้องการเข้าซื้อ ท่ามกลางภาวะไม่แน่นอนในปัจจุบัน