นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า IMF คาดว่า แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะติดลบ โดยอย่างน้อยที่สุดเศรษฐกิจก็จะเข้าสู่ภาวะถดถอยที่เลวร้ายพอๆ กับในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลก หรืออาจจะเลวร้ายยิ่งกว่า
นางจอร์จีวาแสดงความเห็นดังกล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์ระหว่างรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลุ่ม G20 ที่หารือเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้แถลงการณ์ของ IMF หลังการประชุมดังกล่าวคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2564 ก็ตาม
นางจอร์จีวาระบุว่า เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือการควบคุมและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบสุขภาพในทุกๆ ประเทศ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะรุนแรง แต่ยิ่งเราหยุดไวรัสได้เร็วเท่าไหร่ เศรษฐกิจก็จะฟื้นตัวแข็งแกร่งและเร็วเท่านั้น
นางจอร์จีวาให้การสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งสำหรับมาตรการด้านการคลังพิเศษที่หลายๆ ประเทศนำมาใช้เพื่อส่งเสริมระบบสุขภาพและปกป้องแรงงานและบริษัทที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงขานรับความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางขนาดใหญ่ที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน
"ความพยายามอย่างมากเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์กับแต่ละประเทศ แต่ยังเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจโลกโดยรวมด้วย จำเป็นจะต้องมีมาตรการเพิ่มเติมโดยเฉพาะมาตรการด้านการคลัง" นางจอร์จีวากล่าว
นางจอร์จีวาระบุว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วอยู่ในสถานะที่ดีกว่าในการรับมือกับวิกฤต แต่ประเทศตลาดเกิดใหม่จำนวนมากและประเทศที่มีรายได้ต่ำจะเผชิญความยากลำบาก โดยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากกระแสเงินทุนไหลออก และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากประเทศต่างๆ ดำเนินมาตรการรับมือกับการแพร่ระบาด
นางจอร์จีวากล่าวว่า เพื่อให้การสนับสนุนประเทศสมาชิก IMF กำลังให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังทั้งแบบทวิภาคีและพหุภาคีในวิกฤตนี้ และการดำเนินนโยบายเพื่อลดผลกระทบ โดยระบุว่า IMF พร้อมที่จะปล่อยเงินกู้วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์
"เราจะเพิ่มวงเงินฉุกเฉิน เนื่องจากเกือบ 80 ประเทศเรียกร้องขอความช่วยเหลือจาก IMF และเรากำลังร่วมงานกันอย่างใกล้ชิดกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง" นางจอร์จีวากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน