ศาสตราจารย์เบน โคว์ลิง ผู้เชี่ยวชาญด้านการระบาดวิทยาแห่งภาควิชาสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮ่องกง เปิดเผยว่า แม้ว่าในปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะเริ่มทยอยออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แต่สิ่งหนึ่งที่ควรตระหนักก็คือ มาตรการเหล่านั้นไม่ใช่วิธีการที่ยั่งยืนในการระงับการแพร่ระบาดของไวรัสที่กำลังคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากทั่วโลกในขณะนี้
ศาสตราจารย์โคว์ลิง ระบุว่า "แนวความคิดที่ว่าการล็อกดาวน์เป็นมาตรการฉุกเฉินที่จะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ได้อย่างรวดเร็วนั้น เป็นวิธีที่ไม่ยั่งยืนและไม่ช่วยให้ไวรัสหมดไป"
"ผมคิดว่าเราอาจให้ผู้คนอยู่บ้านสัก 2-3 สัปดาห์ จากนั้นเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มที่จะลดลงแล้ว เราก็ควรหาวิธีการอื่นๆ ยั่งยืนมากกว่านี้ เช่น อาจให้มีการตรวจหาเชื้อเพิ่มมากขึ้น และเมื่อมีการตรวจเจอเคสใหม่ๆ ก็รีบแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนอื่น ๆ รวมถึงการเว้นระยะทางสังคม แต่ไม่จำเป็นต้องมากจนเกินไป" ศาสตราจารย์โควลิงระบุ
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์โควลิง ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศจีน ซึ่งธุรกิจต่างๆ เริ่มที่จะกลับมาดำเนินการตามปกติ ด้วยว่า ในเคสของจีน โควิด-19 ยังมีโอกาสที่จะกลับมาแพร่ระบาดได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเคสผู้ป่วยติดเชื้อมาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น