นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ประกาศเปิดตัวแผนรับมือทางมนุษยธรรมระดับโลก โดยแผนดังกล่าวซึ่งมีวงเงิน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น มีเป้าหมายเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูง
นายกูเตอร์เรส กล่าวในการประชุมทางไกลที่จัดแบบเสมือนจริงว่า "โควิด-19 กำลังคุกคามมนุษยชาติทั้งมวล ดังนั้นมนุษยชาติจึงควรสู้กลับ โดยแนวทางรับมือในแต่ละประเทศนั้นไม่น่าจะเพียงพอ"
"เราจำเป็นต้องช่วยเหลือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกว่าหลายล้านคนที่ไม่สามารถปกป้องตนเองได้ ซึ่งนับว่าเป็นความสมัครสมานสามัคคีพื้นฐานของมนุษย์"
มาร์ค โลว์ค็อก รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายมนุษยชน เปิดเผยว่า แผนรับมือดังกล่าวจะดำเนินการโดยหน่วยงานของ UN โดยมีองค์กรที่ไม่ใช่รัฐบาล (NGO) ระดับนานาชาติ และกลุ่ม NGO ต่าง ๆ ทำหน้าที่โดยตรง
แผนการดังกล่าวจะประสานงานโดยสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การดูแลของนายมาร์ค โลว์ค็อก
นอกจากนี้ ภายใต้แผนการดังกล่าว จะมีการจัดส่งอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการที่จำเป็นเพื่อใช้ตรวจหาไวรัส รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์เพื่อใช้รักษาผู้ป่วย พร้อมกับติดตั้งจุดล้างมือตามค่ายและถิ่นที่ตั้งต่าง ๆ เปิดตัวแคมเปญให้ข้อมูลด้านการป้องกันตัวแก่ประชาชน ไปจนถึงการจัดตั้งสะพานทางอากาศและศูนย์กลางต่าง ๆ ทั่วแอฟริกา เอเชีย และลาตินอเมริกา เพื่อใช้เคลื่อนย้ายบุคลากรและอุปกรณ์ด้านมนุษยธรรมไปยังพื้นที่ที่จำเป็นต้องใช้
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เปิดเผยว่า ขณะนี้โลกกำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อโควิด-19 ระบาดทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยกล่าวว่า "สิ่งนี้ได้แพร่กระจายความทุกข์ทรมาน ทำให้ชีวิตผู้คนหลายพันล้านต้องหยุดชะงัก และเป็นภัยต่อเศรษฐกิจโลก"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายกูเตอร์เรส ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ต่อแผนรับมือทางมนุษยธรรมดังกล่าว ซึ่งเขามองว่าเป็นองค์ประกอบจำเป็นเพื่อความมั่นคงทางสุขภาพของโลก