นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความหวังว่าประเทศต่าง ๆ จะออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยเช่นกัน โดยล่าสุด รัฐสภายุโรปได้อนุมัติกองทุนฉุกเฉินวงเงิน 3.7 หมื่นล้านยูโร (4.05 หมื่นล้านดอลลาร์) รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ในการช่วยเหลือสายการบินยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- กระทรวงต่างประเทศจีนประกาศเมื่อคืนนี้ว่า ทางการจีนจะห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเกือบทุกคนเข้าประเทศ แม้ว่าจะมีวีซ่าหรือใบอนุญาตทำงานถูกต้อง โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี คำสั่งดังกล่าวไม่ครอบคลุมนักการทูต และไม่รวมผู้ที่จะเข้ามาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่ยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ๆ ในจีนส่วนใหญ่นั้นติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมาจากต่างประเทศ ขณะที่ประเทศแถบตะวันตกกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อแซงจีนแล้ว
-- ศูนย์ Center for Systems Science and Engineering (CSSE) ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เปิดเผยว่า ณ เวลา 18.00 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ หรือประมาณ 05.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ อยู่ที่ 82,404 ราย ส่งผลให้สหรัฐแซงหน้าจีนขึ้นเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลก
รายงานของ CSSE ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศสหรัฐเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 รายภายในเวลาไม่ถึง 5 ชั่วโมง โดยรัฐนิวยอร์กได้กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของสหรัฐไปแล้วในขณะนี้ ด้วยยอดติดเชื้อที่สูงถึง 37,802 ราย ขณะที่รัฐนิวเจอร์ซี และแคลิฟอร์เนีย มียอดติดเชื้ออยู่ที่ 6,876 ราย และ 3,802 ราย ตามลำดับ
ส่วนยอดรวมผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐขณะนี้อยู่ที่ 1,178 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตในเมืองนิวยอร์กซิตี้ 281 ราย และ 100 รายในเมืองคิงส์เคาท์ตี้ ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐวอชิงตัน
ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ยังระบุด้วยว่า จีน (ซึ่งรวมถึงจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน) มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 82,034 ราย ณ เวลา 18.00 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ 526,044 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 23,709 ราย
-- กลุ่ม G20 ออกแถลงการณ์เมื่อคืนนี้ว่า ทาง G20 จะทำการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจโลก เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
"มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจยังรวมถึงการปกป้องแรงงาน และภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดเล็ก รวมทั้งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด" แถลงการณ์ระบุ
การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบายทางการคลัง ทางเศรษฐกิจ และโครงการที่จะลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และการเงิน จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อคืนนี้ โดย BoE มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10%
นอกจากนี้ BoE ยังเปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางจะขยายวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หากมีความจำเป็น
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 2.1% สอดคล้องกับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวมทั้งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% ในไตรมาส 3/2562 และ 2.0% ในไตรมาส 2 ขณะที่ไตรมาส 1 มีการเติบโต 3.1%
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.28 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในช่วง 1-4 ล้านราย ส่วนตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 ล้านราย
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 695,000 รายที่ทำไว้เมื่อเดือนต.ค.2525
การพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้แห่ปิดกิจการ ท่ามกลางผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐมีกำหนดรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย
จากนั้น มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. เวลา 21.00 น.