ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังผู้นำของประเทศกลุ่ม G20 ได้จัดการประชุมทางไกลฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ โดยกลุ่ม G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล อังกฤษ แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป
ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุม G20 ครั้งนี้ ระบุในแถลงการณ์ว่า กลุ่มผู้นำ G20 คาดว่า จะเน้นไปที่มาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และลดผลกระทบที่เกิดกับเศรษฐกิจโลก
แถลงการณ์ระบุว่า นอกเหนือไปจากประเทศกลุ่ม G20 แล้ว ยังมีประเทศอื่น ๆ เช่น สเปน จอร์แดน สิงคโปร์ และองค์กรสากลต่าง ๆ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) และธนาคารโลก รวมถึงตัวแทนจากองค์กรในแต่ละภูมิภาค เช่น สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และสหภาพแอฟริกา (AU) เข้าร่วมในการประชุมด้วยเช่นกัน
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้น เนื่องจากความกังวลที่ว่าอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก หลังหลายประเทศเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19
ผลการประชุมเมื่อคืนนี้ได้ข้อสรุปว่า กลุ่ม G20 จะทำการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจโลก เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
"มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจยังรวมถึงการปกป้องแรงงาน และภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดเล็ก รวมทั้งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด" แถลงการณ์ระบุ